๑๒. มองทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ล้วนไม่เที่ยง ให้เห็นเป็นธรรมดา ความกังวลใจก็จักไม่มี การจักไปพระนิพพานต้องเห็นธรรมดาให้มาก และยอมรับนับถือให้มากด้วย ให้เห็นธรรมดาภายในด้วย (สันตติภายในคืออารมณ์จิตและพระธรรม เกิดดับอยู่เสมอ) เห็นธรรมดาภายนอกด้วย (สันตติภายนอกคือร่างกายกับเวทนาเกิดดับ ๆ อยู่เสมอ) พิจารณาธรรมดาให้มาก ๆ จิตจึงจักวางได้ เช่นร่างกายนี้ไม่ใช่แก่นสารก็จริงอยู่ แต่ในยามนี้กิเลสยังไม่สิ้น อายุขัยก็ยังไม่หมด จิตนี้อาศัยร่างกายอยู่เสมือนเรือนแพที่จำเป็นต้องอาศัยเพื่อข้ามฝั่ง การยังอัตภาพให้เป็นไป จึงยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จักไม่เป็นที่เบียดเบียนแก่จิตผู้อาศัย ร่างกายสุขจิตก็สุข ถ้าร่างกายเป็นทุกข์จิตก็เป็นสุขยาก ยกเว้นพระอรหันต์เท่านั้น ที่ท่านสุขอย่างอุกฤษฏ์ เพราะท่านแยกจิต แยกกาย แยกเวทนา แยกธรรมออกจากกันได้สนิทเท่านั้น
การแยกกาย เวทนา จิต ธรรมมาจากไหน ก็มาจากการพิจารณาธาตุ ๔ อาการ ๓๒ อันทำให้เกิดเวทนาในรูปแบบต่าง ๆ หรือจากการพิจารณาขันธ์ ๕ อายตนะ ๖ ก็ทำให้เข้าใจในเวทนาในรูปแบบต่าง ๆ ได้ เมื่อพิจารณาไป ๆ พอจิตละเอียดลงก็ปล่อยวางกาย เวทนา จิต ธรรมให้ลงเหลือสักแต่ว่าเท่านั้น จากการพิจารณาธรรมจุดนี้หนักเข้า จักเห็นธรรมทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เรา จิตอยู่ส่วนจิต กายอยู่ส่วนกาย เวทนาอยู่ส่วนเวทนา ธรรมอยู่ส่วนธรรม เห็นแจ้งแทงตลอดก็เรียกว่าถึงฝั่งพระนิพพาน พิจารณาเข้าไว้ อย่าละซึ่งความเพียร แล้วโอกาสจักไปพระนิพพานก็เป็นของไม่ยาก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2015 เมื่อ 11:37
|