ส่วนที่ให้ความอบอุ่นในร่างกาย ช่วยสันดาป เผาย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโต ช่วยทำให้ร่างกายทรุดโทรมเสื่อมลง ยังร่างกายนี้ให้กระวนกระวายยามป่วยไข้ เรียกว่าธาตุไฟ
ส่วนหนึ่งเป็นดิน ส่วนหนึ่งเป็นน้ำ ส่วนหนึ่งเป็นลม ส่วนหนึ่งเป็นไฟ เมื่อแยกแยะออกมาแล้วก็ไม่เหลืออะไรที่เป็นเรา เป็นของเราเลย
ถ้าเราเห็นชัดแบบนี้ ก็เป็นการใช้ปัญญาอย่างถึงที่สุด ก็คือสภาพจิตถอนจากการยึดมั่นถือมั่น เห็นว่าร่างกายนี้ นอกจากจะไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง ตายไปในที่สุด ระหว่างดำรงชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก ต้องคอยดูแล ต้องคอยบริหารอยู่เสมอ
ท้ายที่สุดก็เห็นชัดแล้วว่า ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เพราะเป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เท่านั้น สภาพจิตถอนจากการยึดมั่น ถือมั่น ในร่างกาย ทั้งของตนเอง และผู้อื่น แล้วส่งกำลังใจนั้นไปเกาะแห่งเดียวก็คือพระนิพพาน
ถ้าสามารถรักษากำลังใจเช่นนี้เอาไว้ได้ทั้งเช้าและเย็น สักวันละ ๑๐ นาที ๑๕ นาที ท่านทั้งหลายก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ปรารถนา
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนา และพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย นาทาม)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 09:54
|