ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-05-2010, 11:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พออาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็มากราบพระ ท่านบอกว่า ยังไม่ทันจะตั้งหลัก ก็เหมือนกับบังคับตัวเองไม่ได้ หงายตึงลงก็ไปเลย คือออกไปแบบมโนมยิทธิเต็มกำลัง คราวนี้ไม่ใช่ความรู้สึกแล้ว ทุกอย่างชัดเจนเหมือนกับเอาตัวนี้ไปเองเลย..!

ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็เพราะว่า ท่านผู้อำนวยการท่านนี้ท่านเกษียณมานานแล้ว ตอนช่วงก่อนเกษียณนั้น พันเอกณรงค์ กิตติขจร จะตั้งพรรคเพื่อเล่นการเมือง มาขอให้ท่านเป็นที่ปรึกษาพรรค ก็เพราะความเป็นทิพย์นี่แหละ ถึงเวลาท่านไปทักใครก็ตรงไปหมด

แต่ความรู้สึกก็บอกว่า “อย่าไปยุ่งกับการเมือง” ท่านจึงไม่รับ ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ๒๐ กว่าปีผ่านมาแล้ว ท่านผู้อำนายการท่านนี้ จะสนิทกับหลวงตาวัชรชัยมาก ถ้ามีโอกาสผมจะลองสอบถามดู ไม่ทราบว่าท่านยังอยู่หรือเปล่า ?

นั่นคือการปฏิบัติชนิดที่เรียกว่า “มอบกายถวายชีวิต” ขึ้นชื่อว่าเรื่องของธรรมะแล้ว แม้ตายก็ยอม ขอให้ได้ทำ

คราวนี้ถ้าเป็นความรู้สึกของพวกเรา คงจะรู้สึกว่าไร้เหตุไร้ผลสิ้นดี กลางค่ำกลางคืน ฝนตกหนักยังจะให้ไปวัดอีก หรือไม่ก็วิ่งความเร็ว ๔๐ - ๕๐ ก็แย่แล้วเพราะมองทางไม่เห็น จะเกิดอุบัติเหตุอย่างไรก็ไม่รู้ แล้วบอกให้เหยียบถึง ๑๒๐ เป็นเราจะกล้าไหม ? แต่ว่าท่านผู้อำนวยการท่านนี้กล้า เพราะอย่างที่ท่านบอกว่า ตอนนี้กำลังทำความดี ถ้าตายตอนนี้ก็ไปดีแน่นอน

ต้องมาวัดกับกำลังใจของเราเองว่า เรามีกำลังใจอย่างนี้ไหม ? พวกเราลำบากหน่อยก็โอดโอยโวยวายแล้ว แต่นี่ท่านแลกกันด้วยชีวิต ครูบาอาจารย์ในอดีตจนถึงปัจจุบันแต่ละท่าน ที่ท่านได้ดีมาก็เพราะปฏิบัติธรรมชนิดแลกกันด้วยชีวิต

นี่ยังดีนะ..ว่าวัดเราไม่เน้นการเดินจงกรม ถ้าหากว่าสายของหลวงปู่มั่น ท่านเน้นการจงกรม ผูกเชือกไว้แล้วเดินกันชนิดทางเดินจงกรมลึกท่วมแข้ง แต่ละวันก็เดิน..เดิน..เดิน เดินไปเรื่อย

ดินกลายเป็นฝุ่นติดเท้าทีละนิดทีละหน่อย ท้ายสุดทางจงกรมก็ลึกท่วมหน้าแข้ง นั่นท่านทำกันหลาย ๆ ปี ทำกันอย่างชีวิตเข้าแลก วันหนึ่งเดินกัน ๑๐ ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ของเราเองไม่ได้เน้นตรงนั้น แต่มาวัดกันว่า ในแต่ละวันกำลังใจของเราเกาะความดีได้กี่ชั่วโมง ปล่อยให้กิเลสกินใจเรากี่ชั่วโมง เรากำไรหรือขาดทุน เราทำวันนี้ได้ดีกว่าเมื่อวานหรือเปล่า ?

สิ่งเหล่านี้เราต้องรู้จักวิเคราะห์วิจัย จึงจะสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเป็นธรรมเฉพาะตัวเองเราได้ ถ้าไม่รู้จักใช้ตรงจุดนี้ โอกาสที่จะสำเร็จก็ยาก อย่าลืมว่า โพชฌงค์ ๗* (องค์ธรรมเครื่องช่วยให้ตรัสรู้ ๗ อย่าง) มีอยู่ตัวหนึ่งที่เรียกว่า ธัมมวิจยะ



หมายเหตุ :

* ที.ปา. ๑๑/๒๓๗/๒๖๔ ; ๔๓๔/๓๑๐ ; อภิ.วิ.๓๕/๕๔๒/๓๐๖
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2010 เมื่อ 13:42
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา