ดูแบบคำตอบเดียว
  #199  
เก่า 03-10-2013, 12:59
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

อาหารสัปปายะ.. อาหารเป็นที่สบาย ในธรรมที่ท่านสอนไว้ว่า ที่สบายในการภาวนาต่างหาก นี่.. ไม่ได้สบายเพื่อราคะตัณหา เกี่ยวกับธาตุขันธ์นี่นะ... กินแล้วธาตุขันธ์ก็ไม่กำเริบ การภาวนาก็สะดวกสบาย... ท่านหมายเอาอย่างนั้นต่างหาก จึงต้องได้ระมัดระวัง โอ๊ย..กินแบบนักโทษนั่นแหละ พูดง่าย ๆ ...จะเห็นแก่ลิ้นแก่ปากไม่ได้นะ มันต้องมองดูธรรมอยู่ตลอดเวลา อยากขนาดไหนก็ไม่เอา ถ้าเห็นว่ามันเป็นข้าศึกต่อธรรมแล้ว ต้องได้บังคับกันอยู่ตลอด...

นี่ พูดถึงเวลาฝึกทรมานเจ้าของ อาหารจะต้องมี แต่อาหารอย่างว่าละ เช่น ข้าวเปล่า ๆ ไม่ต้องพูดละ..ว่าจนชิน เรื่องฉันข้าวเปล่า ๆ อยู่ในป่าในเขา บางทีถ้าสมมุติว่า เขาตำน้ำพริกมาให้ เขาก็ใส่ปลาร้าเสีย ปลาร้าก็เป็นปลาร้าดิบ อย่างนี้มันก็ฉันไม่ได้..เสีย.. จะว่า ‘ยังไง’ เพราะไม่ได้มีใครตามมานี่ เขาจะตามมาอะไร เราก็ไม่ให้เขาตามนี่ เราไม่ต้องการยุ่ง บางทีเขาก็ตำน้ำพริกให้สักห่อหนึ่งมา น้ำพริกถ้ามีแต่พริกล้วน ๆ เราก็ฉันได้ แต่นี้มันมีปลาร้านั้น ปลาร้าดิบนี่ เขาไม่ใช่ทำปลาร้าสุก ๆ มันก็เลยกินไม่ได้ ...

การอยู่การกินใช้สอย ไม่ได้มีอะไรมาเป็นอุปสรรค พอได้ยังชีวิตให้เป็นไปวันหนึ่ง ๆ ไปบิณฑบาตในหมู่บ้านเขาอยู่ภูเขา ได้ข้าวเปล่า ๆ มาสองสามก้อน บ้านใหญ่ไม่อยู่ เพราะอาหารการกินสมบูรณ์.. ธรรมะจม ถ้าอาหารการกินบกพร่อง ๆ ธรรมะดีด ๆ เพราะเราไป... เราไปเพื่อธรรมะ เราไม่ได้ไปเพื่ออาหาร จึงต้องไปหาอยู่ที่ขาดแคลนกันดารในป่าในเขา เขาได้อะไรเขาก็ใส่ ส่วนมากมักจะมีแต่ข้าวเปล่า ๆ ได้กับก็กับอย่างว่าแหละ มีน้ำพริกบ้างอะไรบ้างนี้ดีหน่อย คือจิตมันไม่ได้อยู่กับอันนี้ อยู่กับมรรคผลนิพพาน ..

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2013 เมื่อ 15:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา