"ครั้งที่ชัดเจนที่สุดก็คือไปเชียงใหม่มา ๕ วัน อาตมาเป็นคนที่เหนื่อยที่สุดเพราะต้องนั่งเป็นเพื่อนคนขับ เนื่องจากว่าคนอื่นประเภทไว้วางใจคนขับมา นั่งได้ก็หลับเลย อาตมาเองถ่างตาไป ๓ วัน ๓ คืน วันที่ ๔ เรียกคนข้างหลังให้มานั่งแทน ตัวเองจะไปนั่งหลับข้างหลังบ้างเพราะว่าไปรถตู้
ปรากฏว่าเดินยังไม่ทันจะขึ้นเบาะหลังรถตู้เลย คนข้างหน้าหลับไปแล้ว เลยต้องไล่ให้ไปนั่งข้างหลัง บอกว่า "มึงไปเลย..เพราะคนขับกำลังจะหลับ" นั่งชวนคนขับคุยก็อยู่ได้ พอกลับมาถึงวัดท่าซุงปรากฏว่ารถเสีย ต้องซ่อม กว่าจะไปถึงวัดตี ๑ กว่า ตี ๒ ครึ่งต้องตื่นมาส่งโยมขึ้นรถที่ท่ารถอุทัยธานีกลับกรุงเทพฯ ไม่อย่างนั้นเขาจะทำงานไม่ทัน
ก็ไม่ใช้นาฬิกาปลุกยังสามารถตื่นตามเวลาได้ ทั้ง ๆ ที่กรำงานมาหนักขนาดนั้น ทำให้มั่นใจว่าถ้ากำลังใจของเราทรงตัวจริง ๆ ถึงเวลาเราสามารถกำหนดเวลาได้แน่นอน ซึ่งสิ่งนี้ครูบาอาจารย์สายอื่นท่านไม่ได้พูดถึง แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านพูดถึงและสอนพวกเรามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาธิใช้งานที่ท่านเรียกว่า ฌานใช้งาน และการทรงสมาธิตามเวลา
สายอื่นอาตมาไม่เคยได้ยินท่านพูดถึง แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมาและอาตมาก็พยายามฝึกหัดและทำให้ได้อย่างที่ท่านสอน ฉะนั้น...พวกเราก็ใช้ความพยายามเพิ่มอีกนิดหนึ่ง วันนี้ผิดแค่ ๓ จบถือว่าไม่มาก หรือว่าลูกประคำของเขามีน้อยกว่าอาตมา ๓ เม็ด ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:22
|