ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 29-01-2024, 01:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,734 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่ายาติโยมส่วนใหญ่เขารอรับพรอยู่ ถึงเวลาบางคน กระผม/อาตมภาพเห็นนั่งยอง ๆ ถือแก้วน้ำกับขวด รอกรวดน้ำด้วย ถ้าเราไม่ให้ โยมจะคิดอย่างไรครับ ? นี่เป็นจารีตประเพณี คือแนวทางในการปฏิบัติไปแล้ว พระสงฆ์เราจึงต้องคล้อยตามจารีตประเพณีส่วนหนึ่ง ก็คือบิณฑบาตแล้วให้พรตามปกติ เพียงแต่ว่าอย่ายาวมากนัก

กระผม/อาตมภาพเอง "เซ็งมาก" เลย เวลาเดินบิณฑบาตตามหลังภิกษุณีของโรงเจ เพราะว่าแกจะให้พรยาวมาก เพื่อที่จะเรียกศรัทธาญาติโยม แต่กูกับพระอีกเกือบ ๓๐ กว่ารูป ยืนรอไปเถอะ..! แล้วเขาให้แบบนั้นทุกบ้านครับ ไอ้ที่ทุเรศกว่านั้นก็คือตัวเองคนเดียว แต่ไม่รอพวกเราครับ
กระผม/อาตมภาพเดินมาถึงปากทางเข้าถนนเทศบาลกลาง เขาเองก็ถึงฝั่งโน้น เขาอาศัยตัวคนเดียวครับ ปาดหน้าแวบ เข้าไปรับบาตรก่อนเราเลย ทำไมตัวคนเดียวดันไม่รอ เพราะตัวเองให้พรยาว ถ้าตามหลังก็ให้จนพอใจไปเลยสิครับ กระผม/อาตมภาพไม่ได้ว่าอะไร

แล้วอีกข้อหนึ่งก็คือ เราต้องอาศัยการตีความตามพระธรรมวินัยครับ พระพุทธเจ้ามอบมหาปเทส ๔ ให้แก่พวกเรานะครับ จำได้ไหมครับ ? สิ่งใดไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร อย่างเช่นบางท่านไปอ้างว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามยาบ้า ยาไอซ์ แล้วยาบ้า ยาไอซ์เป็นสิ่งที่ไม่สมควรใช่ไหมครับ ? พิจารณาอย่างไรก็ไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร ภิกษุสามเณรเสพไม่ได้ครับ

สิ่งใดที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร อย่างเช่นที่พระองค์อนุญาตให้ในพรรษา ภิกษุสามารถที่จะออกจากวัดได้ไม่เกิน ๗ วัน ก็คือถ้าพ่อป่วย แม่ป่วย ครูบาอาจารย์ป่วย ไปเพื่อรักษาพยาบาลได้ แต่ไปไม่เกิน ๗ วัน เพื่อนสหธรรมิกที่อยู่ต่างวัดกระสันจะสึก ไปเพื่อห้ามปรามได้ ไม่เกิน ๗ วันเหมือนกัน วัดพัง ต้องไปหาทัพพสัมภาระมาเพื่อซ่อมวัด สร้างวัด ได้เหมือนกัน แต่สมัยนี้ไม่ต้องแล้วนะครับ สมัยนี้โทรกริ๊งเดียว ร้านวัสดุก่อสร้างก็วิ่งมาส่งถึงวัดแล้ว ไม่ต้องตะเกียกตะกายไปตัดไม้ ตัดหวาย ชักลากออกจากป่ามา ข้อสุดท้าย ได้รับกิจนิมนต์ไปเพื่อเจริญศรัทธา ไปได้

แล้วถ้าอยู่ ๆ พระในวัด ชักดิ้นชักงอ ป่วยหนักขึ้นมากลางพรรษา อยู่ในข้ออนุญาตนี้ไหมครับ ? ไม่อยู่นะครับ ในเมื่อไม่อยู่แปลว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร แต่พิจารณาอย่างไรก็ไม่รอดแน่ หลวงพ่อรองอำเภอฯ วัดเขื่อนฯ ของเราอาการหนักเหลือเกิน ห่างออกซิเจนหน่อยเดียวแย่แล้ว ก็ต้องรีบให้ท่านขอสัตตาหะฯ เพื่อที่จะไปรักษาตัว สิ่งที่ไม่สมควร แต่พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร ชัดเจนนะครับ

คราวนี้ก็มาในเรื่องให้พร สมัยโน้นการยืนแสดงธรรมกับผู้ที่นั่งอยู่ ถือว่าไม่ได้ พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เพราะว่าเขาไม่ให้ความเคารพ เรามาพูดในประเด็นที่ว่าสมัยนี้การนั่งก็คือการเคารพ ก็น่าจะผ่านไปได้แล้ว แต่ถ้าคนยังสงสัยอีก ก็อ้างมหาปเทส ๔ ได้ครับ สิ่งใดที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร ไม่ต้องไปพูดอีก ๒ หลักนะครับ มหาปเทสมีถึง ๔ หลักด้วยกัน

ประเด็นนี้ชัดเจนหรือยังครับ ? ถ้าไม่ชัดเจน
กระผม/อาตมภาพอธิบายเพิ่มให้อีก มีท่านใดสงสัยไหมครับ ? หรือ "พระอาจารย์เล็กพูดชัดเจนมาก แต่ผมจะจำได้หมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?" ลำบากนะครับ เป็นพระเป็นเณร เราต้องศึกษาให้ชัดเจนที่สุดครับ เพราะถ้าไม่ชัดเจน มีข้อให้เขาถกเถียงได้นี่ลำบากเลยครับ

ดังนั้น..ที่ท่านทั้งหลายมาเรียน ไม่ว่าจะเป็นประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ก็ดี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกก็ตาม เป็นเรื่องที่
กระผม/อาตมภาพชื่นชมมากครับ เพราะว่าท่านทั้งหลายจะได้ศึกษาในสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ให้ชัดเจน ถึงเวลาญาติโยมเขาสงสัย เราจะได้ชี้แจง บอกกล่าวเขาให้เข้าใจได้ถูกต้อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 03:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา