ถาม : แสดงว่าอารมณ์ในปัจจุบันเรายังทิ้งไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นที่พักของใจชั่วคราว ?
ตอบ : เป็นที่อาศัย ในเมื่อใจอาศัยร่างกาย เราอยู่กับร่างกายได้ แต่อย่าไปเกาะร่างกาย สักแต่ว่าอยู่เท่านั้น ในเมื่อเราสักแต่ว่าอยู่ ถ้าเรารู้เท่าทันปัจจุบันจริง ๆ จะเห็นทุกข์เห็นโทษของการปรุงแต่ง ซึ่งจะไปในอดีตหรืออนาคต ในเมื่อเห็นทุกข์เห็นโทษตรงจุดนี้ ตัวปัญญาที่เห็นโทษจะเกิดความเข็ด ในเมื่อเข็ด สติก็จะรั้งให้หยุด ไม่ไปปรุงทั้ง ๒ ทาง ในเมื่อหยุดอยู่กับปัจจุบันได้จริง ๆ ก็จะจบ แต่ถ้ายังหยุดไม่ได้จริง ๆ ก็ยังต้องอาศัยร่างกายไปก่อน
ถาม : แสดงว่าตัวหยุดได้จริง ๆ ก็คือตัวนี้แหละ ตัวยึดในปัจจุบันอยู่ ?
ตอบ : นั่นแหละ ๕ กิโลนี่วางไม่ได้ ยังยึดแล้วจะไปวางอย่างไร ?
ถาม : ตอนที่ผมพิจารณาทุกข์ก็เห็นนะครับ แต่ก็ไม่ทุกข์เพราะจิตอยู่กับสมาธิ โดยที่เราไม่ไปปรุงแต่งเพิ่มและอยู่กับปัจจุบัน แต่ทันทีที่เราออกจากปัจจุบันก็ทุกข์ทันทีครับ ?
ตอบ : สภาพจิตยังไม่ยอมรับ ถ้าสภาพจิตยอมรับจะตัดเหตุคือการปรุงแต่งนั้นเสีย ก็จะไม่ทุกข์ เพราะเห็นอยู่ว่าสภาพร่างกายมีสภาวทุกข์เป็นปกติอยู่แล้ว สภาพจิตก็จะยอมรับว่าธรรมดาของร่างกายนี้เป็นอย่างนั้น ในเมื่อเห็นเป็นอย่างนั้น อยากจะเป็นก็เป็นไป คบกันแค่ชาตินี้ เท่ากับเรากองภาระทั้งหมดไว้ตรงนั้น มีหน้าที่ดูก็นั่งดู หมดเวลาเมื่อไรก็ลาก่อน ไม่ต้องดูอีกแล้ว ก็เลยไม่หนักใจ ไม่ทุกข์ เอ็งอยากจะเจ็บก็เจ็บไป อยากจะหิวก็หิวไป อยากจะป่วยก็ป่วยไป ข้าก็นั่งดูของข้าอยู่อย่างนี้
ถาม : อันนี้คือนิพัทธทุกข์หรือครับ ?
ตอบ : ความทุกข์ทุกอย่างเลย ความทุกข์ทุกประเภทเหมือนกัน เพราะความทุกข์อยู่กับร่างกาย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2013 เมื่อ 09:58
|