ผมตั้งให้แต่ละคนมีหน้าที่ ก็เพื่อที่จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระ ช่วยให้การบริหารจัดการวัดให้เป็นไปด้วยดี ไม่ใช่ตั้งให้มีหน้าที่เพื่อที่จะเอาไปทะเลาะเบาะแว้งกัน
อย่างในเรื่องของเวรยาม หัวหน้าเวรคือผู้รับผิดชอบ ถ้าหากว่ามีอะไรบกพร่องขึ้นมา พอถึงเวลา เขาบอกกล่าวอะไร แทนที่จะพูดกันดี ๆ ไม่ได้หรอก..กูจะบวกท่าเดียว แล้วคิดบ้างหรือไม่ว่าอาบัติที่กินตัวอยู่ทุกวัน ถ้าหากว่าตายลงไปตอนนั้น แล้วจะเดือดร้อนขนาดไหน ?
ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า เราเป็นพระ เป็นเณร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพระธรรมวินัย ถ้าพระธรรมวินัยที่เป็นแค่ส่วนของศีล เรายังไม่สามารถทำได้ ไม่ต้องไปหวังความสำเร็จในเรื่องของสมาธิ ไม่ต้องไปคิดว่าเราจะมีปัญญารู้เท่าทัน แล้วตัดกิเลสได้ เพราะว่าของหยาบเรายังทำไม่ได้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าถึงความละเอียดที่มีมากกว่านั้น
ขอฝากทุกท่านเอาไว้เป็นการบ้านด้วย ญาติโยมที่ฟังอยู่อาจจะไม่ได้ประโยชน์ แต่ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะว่าปัญหาเกิดขึ้น เราจะปล่อยให้คาราคาซังไม่ได้ หลายเรื่องแม้ว่าผมรู้ แต่ว่าต้องรอ ก็คือรอให้มีเหตุที่จะบอกกล่าวให้แก้ไขก่อน แต่คราวนี้พวกท่านทั้งหลาย บางทีพอเห็นผมเฉย ๆ ก็คิดว่ากูชั่วได้ จึงทำไปเรื่อยเปื่อย..!
ไปลองนึกดูก็แล้วกันว่าตอนแรกเราตั้งใจบวชมาเพื่ออะไร ? แล้วปัจจุบันนี้ เรายังทำได้สมดังความตั้งใจหรือเปล่า ? ก็ขอฝากทุกท่านเอาไว้แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 02:34
|