ควรระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสเอาไว้ว่า เราเหมือนบุคคลที่อยู่ในบ้านซึ่งกำลังไฟไหม้ แทนที่จะเร่งขวนขวายเพื่อหนีไปให้พ้น เรากลับนอนพักสบายใจ ไม่รับรู้ว่าไฟไหม้มารอบตัวแล้ว หรืออย่างที่หลวงตามหาบัวท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับหมูนอนพาดเขียง เห็นเขียงเขาวางอยู่ก็นอนเอาศีรษะพาด เออ...สบายดีจริง ๆ เลย โดยที่ไม่รู้ว่าจะโดนเชือดไปเป็นอาหารเมื่อไร
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราควรที่จะเร่งรัดการปฏิบัติให้มากขึ้น ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อที่ว่าถ้าหากตายลงไป อย่างน้อย ๆ ตัวเราถึงแม้จะไม่สามารถเข้าถึงที่สุดของทุกข์ ก็ให้ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า หรือเป็นพรหม รอระยะเวลาในการสร้างบุญสร้างบารมีต่อไปได้
แต่ถ้าหากเราตกสู่อบายภูมิ เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน นอกจากความทุกข์ที่ทับถมมากขึ้นจนประมาณไม่ได้แล้ว โอกาสที่จะใกล้ความดี โอกาสที่จะได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก
สมมติว่าเราตกนรกไป กว่าจะกลับขึ้นมาได้ พระพุทธเจ้าก็น่าจะตรัสรู้ผ่านไปหลายพระองค์แล้ว โดยเฉพาะถ้าขึ้นมาอยู่ในสุญญกัป อันตรายกัป ซึ่งไม่มีพระพุทธเจ้า ผู้คนไม่มีศีลไม่มีธรรม เราก็จะลำบากเดือดร้อนสาหัส
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2017 เมื่อ 13:30
|