ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 25-11-2017, 19:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,640 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ วันนี้เราจะมากล่าวถึงวิธีการจัดการกับรากเหง้าใหญ่ของกิเลสกัน กิเลสที่เป็นรากเหง้าใหญ่ของเราประกอบไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง ๔ ตัว ความจริงรักกับโลภเป็นตัวเดียวกัน เพราะว่าเรารักจึงอยากมี อยากได้ เพียงแต่ว่าวิธีการตัดรัก คือราคะ กับการตัดโลภ คือโลภะนั้น เป็นไปคนละแนวกัน

วันนี้จะกล่าวถึงในเรื่องของราคะก่อน ที่ในบาลีกล่าวว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง เรามากล่าวถึงตัวราคะ ก็คือ เมถุนะ การเสพกาม ซึ่งเป็นตัวที่ต้องบอกว่าฉุดรั้งให้สัตว์โลกติดอยู่กับวัฏสงสารมากต่อมากด้วยกัน

สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณ ถึงขนาดฝรั่งบอกว่า ถ้าเด็กเพิ่งจะเกิดมา ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่ง เอาไปเลี้ยงไว้ในถ้ำโดยไม่ได้เห็นหน้าใครเลย ให้อาหารจนโตขึ้นมา สามารถที่จะมีลูกเองได้ เพราะว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสัญชาตญาณที่ฝังลึกอยู่ในสายเลือด กล่าวคือเป็นสัญชาตญาณที่สืบเนื่องข้ามชาติข้ามภพมา

สำหรับนักปฏิบัติธรรม ในเรื่องของกามราคะก็มักจะกวนอยู่เนือง ๆ ทำให้เราหวั่นไหวหรือว่าเสียผลของการปฏิบัติ เพราะมัวแต่ไปฟุ้งซ่านครุ่นคิดนึกถึงอยู่เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2017 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา