"บ้านเขาไปวัดเหมือนบ้านเราไปเดินห้าง ก็เลยอับอายขายหน้าจนไม่รู้ว่าจะสอนอะไรเขา ได้แต่เก็บกลับมาให้บ้านเรา ถึงเวลาก็บอกกล่าวบรรดาลูกศิษย์ลูกหาให้รู้ว่า ที่อื่นเขาจริงจังกว่าเราเยอะ บ้านเราใส่บาตร พระก็เมตตาบอก โยมถอดรองเท้าใส่บาตรสิ โยมถามว่า จะดีหรือเจ้าคะ อ้าว..ดีสิ ใคร ๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น โยมก็เลยถามอีกว่า แล้วท่านจะรับข้างไหนดีคะ ? โอ้พระเจ้า..!
ไปดูประเทศลาว ที่หลวงพระบาง เวลาเณรเดินมาร้อยกว่าสองร้อยรูป คนลาวคุกเข่าใส่บาตร ส่วนพวกเราเองถอดรองเท้ายังไม่ถอดเลย บอกให้ถอดรองเท้ายังถามว่าจะรับข้างไหน แต่คนลาวคุกเข่าใส่บาตร แล้วตกลงว่าเราจะสู้ใครได้ ? คนพม่านี่เดินเข้าประตูวัดก็ถอดรองเท้าแล้ว เดินถือไป ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวก็มีถุงให้ใบละ ๑๐ จั๊ต ใส่รองเท้าแล้วหิ้วไป อาตมาไปใหม่ ๆ ก็ เออ..พวกนี้ไม่มามือเปล่าเว้ย มีข้าวของมาถวายพระกันทุกคนเลย ถือมาคนละถุง ดูไปดูมา อ้าว..รองเท้านี่หว่า..! เขาถอดรองเท้าตั้งแต่ประตูวัด
ของเรานะหรือ ? เมื่องานถวายพระเพลิงสมเด็จพระพี่นางฯ ข้าราชการทั้งอำเภอใส่รองเท้าเข้าโบสถ์ เอาธรรมเนียมที่ไหนมา ? ถ้ารู้ตัวโปรดอย่าทำ เป็นการสร้างเวรสร้างกรรมให้ตัวเองแท้ ๆ เลย สภาพจิตหยาบขนาดนั้น ขนาดพระพุทธเจ้านั่งอยู่ยังใส่รองเท้าเดินย่ำโครม ๆ เข้าไปได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2015 เมื่อ 18:51
|