ดูแบบคำตอบเดียว
  #73  
เก่า 10-10-2015, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,145 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นใหม่รู้หรือไม่ว่าสารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ ? โบราณเขาว่า "ตรุษ ๔ สงกรานต์ ๕ สารท ๑๐" ก็คือวันตรุษไทยจะตรงกับสิ้นเดือน ๔ สงกรานต์ตรงกับกลางเดือน ๕ สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ คราวนี้คนฟังไปตีความเพี้ยน ไปตีความว่าวันตรุษไทยให้ทำบุญ ๔ วัน สงกรานต์ให้ทำบุญ ๕ วัน สารทไทยทำบุญ ๑๐ วัน

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "โคตรแม่มึงทำไปคนเดียวเถอะ กูไม่ทำกับมึงหรอก ทำบุญตั้ง ๑๐ วัน พระไม่ต้องทำอะไรกันพอดี" คนที่ตีความผิดคืออดีตมัคคนายกวัดท่าซุง อาจารย์สง่า สาโรจน์ อะไรที่ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ เสียเวลาทำมาหากินชาวบ้านเขา จะทำบุญตั้ง ๑๐ วัน ก็ทำไปคนเดียวเถอะ การทำบุญนะดี แต่ถ้าทำลักษณะนั้นเดือดร้อนชาวบ้านเขา

สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทไทยก็คือกระยาสารท ที่ดังมาก ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นกำแพงเพชรหรือเปล่า ? เพราะว่าต้องคู่กับกล้วยไข่ กระยาสารทมักจะหวานมาก กินคู่กับกล้วยไข่จะตัดรสหวานได้ ส่วนตรุษไทยนั้นจะเป็นข้าวเหนียวแดง ถ้าสงกรานต์จะเป็นกาละแม เดี๋ยวนี้พวกขนมประจำสารทพวกเราจำกันไม่ได้แล้ว ที่อาตมาจำแม่นเพราะตอนเด็ก ๆ ต้องรอ ถ้าไม่มีตรุษ ไม่มีสารท ก็ไม่มีขนมกิน บ้านที่ฐานะไม่ดี ปีหนึ่งทำขนม ๒-๓ ครั้งก็ถือว่ามากแล้ว กว่าจะได้กินอีกทีก็โน่น หน้าลงแขกเกี่ยวข้าว ทำขนมเลี้ยงแขก ส่วนใหญ่ก็เป็นลอดช่องน้ำกะทิ ก็กินกันได้กินกันดีเหมือนกัน เพราะไม่มีอะไรจะกิน

ลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นประเพณีที่ดีงาม แสดงออกถึงความสามัคคีของชาวบ้าน ไม่ว่าจะหมู่บ้านเดียวกัน หรือหมู่บ้านอื่น สมัยก่อนเขาใช้คำว่า "เอาแรงกัน" เวลาบ้านเขาเกี่ยวข้าวเราก็ไปช่วย ถึงเวลาเวลาบ้านเราเกี่ยวข้าวบ้านเขาก็มาช่วยคืน ถึงได้เรียกว่า "ลงแขก" คือเรียกแขกช่วยกันลงนาเกี่ยวข้าว มะรุมมะตุ้มพักเดียวก็เสร็จ แต่ความหมายของคำว่าลงแขกสมัยหลัง กลายเป็นรุมข่มขืนผู้หญิงไป อะไรที่เก่า ๆ หลัง ๆ ก็กลายเป็นเพี้ยนไป โบราณถึงบอกว่า ของกินถ้าไม่ได้กินก็เน่า เรื่องเล่าถ้าไม่ได้เล่าก็ลืม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา