ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-10-2019, 19:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,090 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า นี่เป็นแค่ทานเท่านั้น สิ่งที่ก่อให้เกิดบุญกุศลที่สูงกว่าทานยังมีการรักษาศีล ไม่ว่าจะศีล ๕ ศีล ๘ หรือกรรมบถ ๑๐ ก็ตาม ศีล ๕ เป็นคุณสมบัติของพระอริยเจ้าระดับพระโสดาบัน กรรมบถ ๑๐ เป็นคุณสมบัติของพระอริยเจ้าระดับสกทาคามี ศีล ๘ เป็นคุณสมบัติของพระอริยเจ้าระดับอนาคามี ศีล ๑๐ เป็นคุณสมบัติของพระอริยเจ้าระดับพระอรหันต์

ถามว่าพระท่านต้องมีศีล ๒๒๗ ข้อไม่ใช่หรือ ? ใช่...แต่ว่าศีลส่วนใหญ่นั้น พระพุทธเจ้าท่านสั่งห้ามไว้เพื่อเป็นการเอาใจชาวบ้าน เพราะชาวบ้านไปคิดว่าถ้าพระทำอย่งนั้นแล้วผิด ในเมื่อชาวบ้านมีความคิดความเชื่ออย่างนั้น ถ้าพระไปทำเข้า เขาก็จะตำหนิติเตียนและจะเกิดโทษกับตัวเขาเองได้

ถามว่าแล้วศีล ๑๐ แค่นั้นทำให้เข้าถึงพระอริยเจ้าในระดับพระอรหันต์ได้หรือ ? ก็ต้องดูสามเณรต่าง ๆ ในสมัยพุทธกาล สามเณรถือศีล ๑๐ ข้อ ทำไมเป็นพระอรหันต์กันมากมาย ?

การรักษาศีลนั้นมีอานิสงส์มากกว่าการให้ทานเป็นร้อยเท่า ดังนั้น ถ้าการให้ทานมีผลเป็นร้อย การรักษาศีลคูณร้อยก็มีผลเป็นหมื่น แต่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการภาวนา คือการที่เรามาปฏิบัติสมาธิกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นการควบคุมกาย วาจา และใจของเรา ให้สงบระงับ ไม่กระทำสิ่งอันเป็นเหตุที่ก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง มหากุศลใหญ่จึงเกิดขึ้น และมีผลสูงกว่าการรักษาศีลเป็นร้อยเท่า

ก็แปลว่าการรักษาศีล ถ้าเปรียบกับทานแล้วมีผลเป็นหมื่น การเจริญภาวนาถ้าเปรียบกับทานแล้วก็มีผลเป็นล้าน แต่เราก็มักจะไปเน้นการให้ทาน โดยที่ลืมไปว่าถ้าเราต้องการอานิสงส์กันจริง ๆ แล้ว การรักษาศีลหรือการภาวนา มีอานิสงส์มากกว่ามหาศาล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา