ถาม : จริง ๆ แล้วลูกแก้วจักรพรรดิ นี่คือถือว่าเป็นบารมีของพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่พระองค์ท่านให้เอาไว้ คนรู้จักใช้ประโยชน์ก็ได้ประโยชน์ไป รู้จักใช้มากได้มาก รู้จักใช้น้อยได้น้อย
ถาม : พอตอนที่ภาวนาด้วยองค์ภาวนาเป็นลูกแก้ว ไปนาน ๆ เข้า บางทีจะไม่ใช่ลูกแก้ว แต่จะเป็นลักษณะเหมือนกับเป็นบารมีของพระพุทธเจ้า เป็นลักษณะของทรงกลมหรือเป็นกลุ่มเมฆหมอก ไม่รู้ว่าจะยังเป็นองค์ภาวนาไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าภาวนาตั้งใจจับลูกแก้วแปลว่าตั้งใจทำกสิณ ดังนั้น..แสดงว่าเราไปสนใจเรื่องอื่น ความเป็นกสิณก็ไม่มี
ถาม : ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อว่าอันนั้นเป็นบารมีพระพุทธเจ้าก็คือไม่ถูก ?
ตอบ : ดูว่าเราทำเพื่ออะไร ถ้าตั้งใจจับลูกแก้วเป็นกสิณ ไปสนใจอย่างอื่นก็ถือว่าเป็นกสิณโทษ เพราะว่าทำผิด
ถาม : ระดับสมาธิคือระดับความสว่างของลูกแก้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นกสิณ ระดับสมาธิสูงขึ้น ความเปลี่ยนแปลงก็จะมีตามไปด้วย เพราะฉะนั้น..จะสว่างมากสว่างน้อยขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิที่เราเข้าถึง
ถาม : ถ้าเกิดว่าระดับสมาธิตามภาพคือ ลูกแก้วเป็นลักษณะเหมือนไม่ใช่เป็นลูกแก้ว แต่รู้สึกว่าเป็นทรงกลม ๆ ใส ๆ บ้าง ยังถือว่าเป็นองค์กสิณของลูกแก้วไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเริ่มติดตาก็เป็นอุคหนิมิต ระดับสมาธิถือเป็นอุปจารสมาธิ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2020 เมื่อ 02:42
|