เมื่อกำลังใจของเรายึดมั่นในพระธรรมแน่นแฟ้นดีแล้ว ก็คลายกำลังใจลงมานิดหนึ่ง ระลึกถึงความดีของพระสงฆ์ว่า เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ นำเอาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่แก่พวกเรา
พอกำลังใจของเราทรงตัวมั่นคงแล้ว ก็คลายกำลังใจลงมา พิจารณาถึงคุณความดีของเทวดาว่า อย่างน้อยต้องมีความละอายชั่ว กลัวบาป มีศีลบริสุทธิ์ หรือถ้าสูงกว่านั้นก็สามารถทรงฌานสมาบัติได้ หรือถ้าหากว่าเป็นพระวิสุทธิเทพ คือเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิงก็คือ สามารถตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทปหาน เข้าสู่พระนิพพานได้
เมื่อกำลังใจของเราแนบแน่นอยู่กับคุณความดีของเทวดาแล้ว ก็คลายกำลังใจออกมา ระลึกถึงคุณของศีลว่า รักษากาย วาจา ของเราไม่ให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ซึ่งเป็นกิเลสส่วนที่จะออกมาทางกายและวาจา ทำให้เราไม่เป็นผู้มีความโหดร้าย มือไว ใจเร็ว พูดปด หมดสติ คุณของศีลจะป้องกันอบายภูมิไม่ให้เกิดขึ้นแก่เรา
เมื่อกำลังใจทรงตัวก็คลายออกมานิดหนึ่ง แล้วมาพิจารณาในส่วนคุณของการบริจาคให้ทาน ว่าสามารถช่วยลดความโลภในจิตในใจของเราลงได้ ทำให้กิเลสใหญ่หมดกำลังลงไปตัวหนึ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2017 เมื่อ 17:28
|