"เมื่อวานนี้ระดมสรรพกำลังที่มีอยู่ออกไปเพื่อคุมสอบหมดเลย ก็คือพระหนึ่งรูปคุมหนึ่งห้อง เฉพาะของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ๑๖ ห้อง อนุบาลทองผาภูมิ ๑๒ ห้อง แล้วยังมีโรงเรียนจันเดย์ ยังมีโรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศที่พระวัดท่าขนุนไปเป็นเจ้าอาวาส ก็ต้องแบ่งพระให้เขาไปอีก...หมดวัดเลย ขนาดมีพระ ๔๐ กว่ารูปนะ เหลือหลวงตาแก่หนึ่งรูปกับเณรเฝ้าวัด
มีคนเขาบอกว่าเอาแม่ชีไปบ้าง ไปคุมสอบ บอกว่าไม่ได้ เกรงใจเจ้าภาพ ก็คือพระไปคุมสอบเขามีเจ้าภาพเลี้ยง บอกแม่ชีกับเณรว่าไม่ต้องไป เพราะว่าแม่ชีกับเณรต้องฉันแยกต่างหาก เขาต้องจัดอีกโต๊ะหนึ่งไปเลย ลำบากเขา พวกอาตมาเองประเภทไปกัน ๑๖ รูป ให้เขาจัดแค่ ๓ โต๊ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะจัด ๔ โต๊ะให้ บอกว่าไม่ต้อง..เยอะไป นั่งเบียดกันหน่อยก็ได้ เขากะให้ซ้ายขวาหน้าหลัง ๔ รูปต่อหนึ่งโต๊ะ..มากไป อย่างไรก็ฉันไม่หมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..แบ่ง ๆ แย่ง ๆ กันหน่อยก็ดูท่าจะอร่อยมากขึ้น
งานคณะสงฆ์เยอะมากย่อมต้องการผู้เสียสละ โดยเฉพาะเรื่องของธรรมศึกษา ปัจจุบันนี้จริง ๆ แล้วกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ เขตพื้นที่การศึกษาต้องรับผิดชอบ แต่ปรากฏว่าแทบจะทั้งหมดปัดงานมาให้คณะสงฆ์ คือพวกเรามีความชำนาญมาตั้งแต่ต้น เป็นเจ้าของงานมาตั้งแต่ต้น เขาก็เลยไม่ยอมให้พระวางมือ พระเรามีหน้าที่เข้าไปสอนแล้วก็เป็นพี่เลี้ยงดูอยู่ห่าง ๆ ให้เขาจัดกันเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น พระต้องเป็นกำลังหลักอยู่ตลอดเวลา แล้วทางด้านแม่กองธรรมสนามหลวง ทั้ง ๆ ที่เป็นคนรับงบประมาณมาก็ประหยัดงบโคตร..! ถามว่าประหยัดแบบไหน ? แทบทุกอย่าง ตอนเวลาสอบอย่างของอาตมานี่ กระดาษ ปากกา ตัวเย็บกระดาษ กาว สารพัด ต้องซื้อกันเอง แล้วตัวรับงบประมาณนั่งยิ้มเฉย ถึงเวลาก็สั่งการ โน่น...สอบได้เมื่อไรค่อยคิดค่าหัวให้ ถ้าเด็กสอบตกเราก็ไม่ได้อะไรเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2018 เมื่อ 08:31
|