ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 25-03-2024, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,603
ได้ให้อนุโมทนา: 151,769
ได้รับอนุโมทนา 4,412,129 ครั้ง ใน 34,193 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานขั้นตอนและวิธีการ ในการพัฒนาตนเองของเรา ในศีล ในสมาธิ ในปัญญา เป็นขั้น ๆ ขึ้นไป บุคคลที่สามารถพัฒนาข้ามขั้นได้ ถือว่ามีความสามารถสูงเป็นพิเศษ

ถ้าว่ากันตามลำดับขั้นก็คือ ๑. โสดาปัตติมรรค ๒. โสดาปัตติผล ๓. สกทาคามิมรรค ๔. สกทาคามิผล ๕. อนาคามิมรรค ๖. อนาคามิผล ๗. อรหัตมรรค ๘. อรหัตผล

องค์สมเด็จพระทศพลพิจารณาแล้วว่า "มนุษย์ที่เกิดมาย่อมมีศักยภาพพอในการพัฒนาตนเอง จากปุถุชนผู้หนาแน่นด้วยกิเลส เป็นอริยชนผู้ก้าวหน้าขึ้นไปโดยส่วนเดียว ไม่มีการตกต่ำ" จึงได้ยอมเหนื่อยยาก อบรมสั่งสอนพวกเราถึง ๔๕ ปีเต็ม ๆ โดยเรียก ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาเหล่านี้ว่า "ธรรมเสนา" คือ "ทหารในกองทัพธรรม"

ในเมื่อเป็นทหาร ก็ต้องเข้มแข็ง แกร่งกร้าว ต้องสามารถรบจนตัวตาย โดยไม่เสียดายชีวิตตัวเอง เพื่อความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า แล้วพวกเราทั้งหลายลองมาพินิจพิจารณาดูว่า "ตนเองทำตัวสมกับการเป็นธรรมเสนาหรือไม่ ?"

ในเมื่ออาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างมีพร้อม ก็เหลือแค่กำลังใจของเราเอง ว่าจะมุ่งมั่นฟันฝ่าไปได้เท่าไร ? พวกที่ปล่อยตัวเองให้เป็น "ปลาตายลอยน้ำ" เพราะว่าท้อแท้ ท้อถอย ไม่คิดที่จะขัดเกลาตนเองให้ดีขึ้น อีกไม่นานก็จะเป็นขยะ ที่โดนคลื่นทะเลซัดขึ้นสู่ฝั่ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2024 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา