พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนที่แล้วไปบวชพระให้ที่วัดวังปะโท่ ด้วยความที่ว่าเวลามีน้อย อาตมาก็เลยให้บวชแบบเอสาหังฯ ปลัดนกก็นั่งตาปริบ ๆ "หลวงพ่อ...ผมลืมไปหมดแล้วครับ" บอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก ก็สวดเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าขั้นตอนต่างกัน เรื่องขั้นตอนเดี๋ยวผมจัดการเอง" จึงสวดจนเสร็จ อะไรวะ...พักเดียวลืมหมดแล้ว ของตู ๓๐ กว่าปีแล้วยังไม่ลืมเลย
พอหลวงพ่อวัดท่าซุงขอให้บวช ด้วยความที่เข้าใจว่าวัดท่าซุงเป็นวัดมหานิกาย ก็น่าจะบวชแบบอุกาสะฯ อาตมาก็ซ้อมขานนาคแบบอุกาสะฯ ไปเต็มที่เลย ปรากฏว่าไปถึงโน่น พระพี่เลี้ยงบอกว่า "วัดเราบวชแบบเอสาหังฯ" ก็ไปเปลี่ยนเอสาหังฯ อยู่ ๒ วัน พอท่องได้ ก็พอดีพี่เลี้ยงท่านบอกว่า "เฮ้ย...บวชหมู่ ต้องใช้ เอเต มะยัง ภันเตฯ" เจริญ...คราวนี้จะบวชแบบไหนขอให้บอก ท่องได้หมดแล้ว
คนก็สงสัยอะไรนักหนา เขารู้หรือเปล่าว่าอาตมาบวชเสร็จก็เป็นคู่สวดได้เลย ถึงเวลาเขาต้องสวดญัตติใช่ไหม ? รูปละ ๓ รอบ รุ่นของอาตมาบวชตั้ง ๓๖ รอบ ก็เท่ากับ ๑๒ ชุด ชุดละ ๓ รูป สวดญัตติไป ๓๖ รอบ จำไม่ได้ก็บ้าแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:03
|