ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 02-11-2009, 07:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,909 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default พัฒนาการในการปฏิบัติ (ของพระอาจารย์เล็ก)

สมัยก่อน เริ่มตั้งแต่รู้จักชื่อเสียงและปฏิบัติตามหลักคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าท่านมาก่อนเลย เกิดจากว่าปี ๒๕๑๘ นั้นโยมพ่อของอาตมาตาย พี่ชายเห็นว่าอาตมาอยู่กับพ่อมาตลอด ดูแลท่านมาทั้งกลางวันกลางคืนตั้ง ๕ - ๖ ปี กลัวว่าอาตมาจะเสียใจ แต่จริง ๆ แล้วอาตมาโคตรจะดีใจเลย..!

พี่ก้อง เขาเอาคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงพ่อมาให้ ตอนนั้นหนังสือเพิ่งออกใหม่ (ปี ๒๕๑๘) พี่ก้องบอกว่า "อ่านดู ถ้าทำได้ก็ทำ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ" อาตมาก็อ่าน ปรากฏว่าน่าสนใจ ที่ชอบใจมาก ๆ ก็คือ ท่านเขียนง่ายมาก อ่านแล้วเหมือนทำได้เดี๋ยวนั้นเลย ก็เลยลองทำดู กลายเป็นว่ายิ่งทำก็ยิ่งสนุก ทำแล้วเกิดผล ขั้นตอนก็เป็นไปตามที่หลวงพ่อท่านบอกทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ๆ

พอปี ๒๕๒๑ เข้ากรุงเทพฯ มาทำงาน พี่ชาย คือ พี่ก้อง พี่ประสิทธิ์ พี่สุรกานต์ เขาไปหาหลวงพ่อที่บ้านสายลมกันทุกเดือน เขาชวนอาตมาไป แต่อาตมาไม่ไปด้วย แปลกดีไหม ? ได้แค่ฝากเงินไปทำบุญ ฝากไปได้ทุกเดือน แต่ไม่ไปเอง เพราะว่าเวลางานแย่งเวลาอื่นไปหมดและอาตมาก็ชอบภาวนาด้วย ตอนช่วงนั้นจะไปกางมุ้งนอนบนดาดฟ้า เพราะว่าอากาศโปร่งดี อาตมาก็ได้อาศัยตรงนั้นทำให้ภาวนาได้เยอะ พอใกล้ ๆ สว่างอากาศหนาว จะสะดุ้งตื่น แล้วก็จะลุกขึ้นมาภาวนา ก็แปลว่าต้องตื่นภาวนาช่วงตี ๓ ตี ๔ เป็นประจำ ทำให้เคยชินกับการภาวนา

จนกระทั่งปลายปี ๒๕๒๑ พี่ประสิทธิ์เขาก็ถามว่า "ไปฝึกมโนมยิทธิกันไหม ?"อาตมาก็ถามว่า "มโนมยิทธิเป็นอย่างไร ?" พี่เขาก็บอกว่า "มโนมยิทธินี่คนฝึกถ้าทำได้ก็จะไปดูนรกดูสวรรค์ได้" โอ๊ย..คราวนี้แทบจะเต้นเลย ไอ้ที่อาตมาตะเกียกตะกายฝึกมา ๓ ปี ๔ ปี ก็เพราะอยากจะเห็นผี เห็นเทวดา เห็นนรก เห็นสวรรค์นั่นแหละ พี่เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ที่บ้านสายลมเขาเปิดสอนให้ ในเมื่อเปิดสอนอาตมาก็ไป โดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เกาะท้ายไปเลย

ระยะนั้น วันเสาร์ -อาทิตย์ - จันทร์ หลวงพ่อท่านรับสังฆทาน ส่วนวันอังคารก็เปิดสอน ตอนนั้นบ้านสายลมเขาจะมีห้องเขียว ห้องแดง ห้องน้ำเงิน เขาเรียกห้องมรกต ห้องไพลิน ห้องทับทิม พวกเรารุ่นนี้ไม่ทันหรอก

พวกเราก็ฝึกกันที่ห้องเขียว มีครูคอยคุม มีคนร่วมฝึก ๗ คน ด้วยความที่ไม่มีความรู้มาก่อนว่ามโนมยิทธิเป็นอย่างไร พอเขาให้ภาวนาก็ทำตาม ครูฝึกเขาก็มานั่งจ้องหน้า บอกให้ทำใจให้สบาย กำหนดใจให้นึกพิจารณาอย่างนั้นอย่างนี้ ตัดร่างกายอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไปเรื่อย บอกอย่างไรทำอย่างนั้น แล้วในที่สุดก็ให้ขอบารมีพระ ขอให้ภาพพระพุทธเจ้าปรากฏขึ้นตรงหน้า
ครูเขาถามว่า “เห็นอะไรไหมคะ ?”
ตอบว่า “ไม่เห็นครับ”
“สว่างไหมคะ”
“มืดครับ” ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2013 เมื่อ 10:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา