"คราวนี้สังคมไทยของเรา การพึ่งพิงผู้มีอิทธิพลฝังรากลึกมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่สมัยยังมีทาส พึ่งพิงนายทาส พอมารัชกาลที่ ๕ ค่อย ๆ คิดวิธีว่าทาสที่เกิด พ.ศ. นี้ ปล่อยเป็นอิสระไปเลย ทาสที่เกิด พ.ศ. นี้จ่ายค่าไถ่ตัวเท่านี้ ๆ ทาสที่เกิด พ.ศ. นี้ จะไถ่ตัวหรือไม่ไถ่ตัวก็ไม่เป็นไร พระองค์ท่านหาวิธีที่นุ่มนวลมาก แต่เหลือเชื่อว่าทาสเกินครึ่งไม่ยอมไป ด้วยความที่พึ่งพิงเจ้านายจนชิน ก็เลยอยู่ใน DNA มา
พอพ้นจากช่วงการเลิกทาส เพราะว่ารุ่นเก่า ๆ ที่เป็นทาส ที่เรียกว่าทาสในเรือนเบี้ย คือเกิดมาปู่ย่าตาทวดเป็นทาสมาชั้นแล้วชั้นเล่า รุ่นเก่าตายหมด เหลือรุ่นใหม่พวกที่เป็นไทอยู่ก็ยังพึ่งพิงผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะพึ่งพิงในลักษณะ อย่างเช่นว่าอยู่ในกรม"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2020 เมื่อ 10:19
|