ดูแบบคำตอบเดียว
  #51  
เก่า 25-06-2011, 23:05
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,675 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Default

"...ในเวลานั้นตอนแรกเราต้องให้ศีลมาควบคุมตัวเรา แล้วทีหลังศีลนั้นจะเป็นการป้องกันตัวเราไม่ให้เดือดร้อน เพราะว่าถ้าไปทำผิดศีลนั้นนะเดือดร้อน เป็นการกระทำที่เป็นกรรมที่เดือดร้อน ก็เป็นอกุศลกรรม เป็นสิ่งที่จะทำให้เรารับกุศลที่ไม่ดี ก็หมายความว่าศีลนี่เป็นส่วนที่ท่านตั้งเอาไว้เพื่อที่จะป้องกันเรา

แล้วก็มาถึงสมาธิ สมาธิก็เพื่อที่จะให้จิตใจเราเข้มแข็ง สามารถที่จะมีสติสัมปชัญญะ เมื่อมีสติสัมปชัญญะแล้ว เราเห็นอะไรทุกอย่าง ทำอะไรก็เกิดผล จะเกิดผลอะไรเราก็รู้ อะไรที่ถูกต้องเราก็รู้ อะไรที่ไม่ถูกต้องเราก็รู้ เป็นอันว่าสมาธิและมีสตินี่ก็รู้ รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เกิดความรู้ซึ่งมีผลเป็นปัญญา รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แล้วบังคับจิตใจเราอยู่เสมอ ก็เป็นปัญญาขึ้นมา

ฉะนั้น การที่ทำในขั้นต่าง ๆ มาตลอด ท่านก็ได้เห็นว่ามีผลอย่างไร การที่ได้ปฏิบัติแม้จะในสิ่งที่เหมือนว่าง่าย ๆ ทั้งหมดเป็นผลดีถ้าทำอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ท่านทั้งหลายได้ทำความดีมาจนกระทั่งมีความเจริญขึ้นมา ก็ขอให้ทำต่อไป ขอให้พิจารณาให้ดี ๆ ว่า ถ้าเรามีความระมัดระวังตัวอยู่เสมอในการทำอะไรด้วยกาย ด้วยการพูดอะไรด้วยวาจา และแม้แต่คิดด้วยใจ ให้สำรวมกายวาจาใจให้ดี และปฏิบัติต่อไปในทางที่เจริญ ในทางที่เกื้อกูลต่อผู้อื่น ก็เป็นการประกันว่าอนาคตของท่านจะรุ่งเรืองขึ้น ทั้งในกายทั้งในใจ โดยเฉพาะทางใจนี่ก็จะรุ่งเรือง เพราะว่าจิตใจก็จะผ่องใสมีความสบายแน่นอน

ฉะนั้น ขอให้ท่านได้ช่วยกันรักษาความดีอย่างเหนียวแน่น และให้มีผลสำเร็จในการปฏิบัติในใจของท่าน กายและใจก็จะมีความเจริญมั่นคง ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในกาลทุกเมื่อ..."
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 27-06-2011 เมื่อ 17:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา