ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 28-03-2012, 08:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยที่อยู่วัดท่าซุงผมไม่อยากเรียน เพราะรู้อยู่ว่าตำราเฮงซวยแค่ไหน แค่นักธรรมตรี เขาก็ปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ ผมกลัวว่าถ้าหากว่าเรียนไปนี่ อาจจะถูกพาออกนอกทางไปด้วย เลยกราบเรียนกับหลวงพ่อท่านว่า “ผมไม่เรียนดีกว่าครับ..”

หลวงพ่อท่านกลับบอกว่า “ถ้ามีเวลาก็ให้เรียนไว้หน่อย อย่างน้อย ๆ จะได้เอาไว้เป็นไม้กันหมา..” คือ นักปริยัติส่วนใหญ่เขาเรียนกันได้ประโยคสูง ๆ ได้ปริญญา แล้วเขาจะดูถูกพระนักปฏิบัติว่าไม่ได้ศึกษาอะไร เอาแต่หลับตาภาวนา

คำว่าเอาไว้เป็นไม้กันหมาคือ “กูก็เรียนเหมือนกับมึง แถมยังเก่งกว่ามึงด้วย” ผมก็เลยเรียน พอจบนักธรรมเอก หลวงพ่อถามว่า “จะเรียนบาลีต่อไหม ? จะได้ส่งไปเข้าสำนักในกรุงเทพฯ” ผมกราบเรียนท่านว่า “ถ้าอยู่ห่างหลวงพ่อผมต้องเลวแน่ ๆ เพราะฉะนั้น..ไม่เอาดีกว่าครับ” แต่ปรากฏว่า ท้ายสุดก็ต้องมาเรียนอยู่อย่างทุกวันนี้จนได้

ในช่วงของความเป็นพระใหม่ เป็นระยะเวลาการสร้างตัวของเราเอง สร้างทั้งทางโลกสร้างทั้งทางธรรมด้วย ค่อย ๆ สะสมไปความดีก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่คุณอยู่

พอไปถึงจุดหนึ่งก็จะมีคนมากวน เพราะเขาเริ่มเห็นความดีของคุณแล้ว ก็จะเป็นการวัดตัวของคุณเองได้อีกอย่างว่า รำคาญไหม ? สามารถสงเคราะห์เขาเสมอหน้ากันได้ไหม ? ถ้าคุณรู้จักสังเกต จะเห็นหลายต่อหลายท่าน คัดแต่ลูกศิษย์รวย ๆ ต้องเป็นใหญ่เป็นโต เป็นคุณหญิงคุณนาย เป็นนายพันนายพล หรือไม่ก็บรรดาเศรษฐีมหาเศรษฐี ประเภทนั้นให้ทราบไว้เลยว่าตัวเองใกล้จะตายแล้ว..!

เราต้องสามารถสงเคราะห์เขาเสมอหน้ากันหมด ไม่เลือกคนจนคนรวย ไม่เลือกว่าสวยงามหรืออัปลักษณ์ พูดง่าย ๆ ก็คือทุกสถานภาพ ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า เห็นเขาเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นบุคคลที่ต้องการรับการสงเคราะห์จากเราก็สงเคราะห์ไป

แต่ว่าสงเคราะห์แล้วให้สงเคราะห์เลย เอาแค่เฉพาะหน้าเท่านั้น พ้นจากตรงนั้นไปแล้วอย่าเก็บมาใส่ใจ ยิ่งเราบวชอยู่อย่างนี้ ผู้ที่ควรแก่การสงเคราะห์มากที่สุดก็คือ ญาติโยมของเราเอง แต่การสงเคราะห์ญาติโยมด้วยการไปหา บางทีก็อาจจะทำให้เขาอึดอัดใจ เพราะว่าประการแรก เราอยู่ในสถานภาพของนักบวช เขาปฏิบัติตนกับเรายาก ประการที่ ๒ คือ บางทีเขาเข้าใจผิดว่าเราไปเพื่อต้องการเงินต้องการทอง แล้วเขาก็ต้องพยายามหามาเพื่อถวาย ก็จะสร้างความลำบากใจด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย

ฉะนั้น..วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ปฏิบัติอยู่กับที่อย่างนี้ แล้วตั้งใจอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้กับเขาทั้งหลาย การอุทิศส่วนกุศลก็คือแบ่งบุญให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-03-2012 เมื่อ 21:47
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา