ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 06-02-2012, 11:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนที่ ๓ นั้น ท่านเรียกว่าภาวนามัย คือบุญที่สำเร็จด้วยการภาวนา ท่านกล่าวเอาไว้ว่า ทำ ๑ จะได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน เพราะว่าการภาวนานั้น เราต้องควบคุมทั้งกาย ทั้งวาจา และทั้งใจของเรา ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่เฉพาะในสิ่งที่ดีงามเท่านั้น ซึ่งอรรถกถาจารย์ท่านได้อธิบายในส่วนนี้ไว้ว่า ที่ทำ ๑ ได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน เพราะว่าควบคุมทั้ง ๓ ส่วน คือกาย วาจา และใจให้ดีนั่นเอง

อาตมภาพเห็นด้วยอย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกัน ๒ ข้อแรกที่ท่านอรรถาธิบายเอาไว้ว่าทำเฉพาะกายก็ดี ทำเฉพาะกายกับวาจาก็ดี ความจริงแล้วทั้ง ๒ ข้อนั้น ต้องมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นผู้นำ คิดจะทำเสียก่อนจึงสามารถที่จะทำได้

ญาติโยมทั้งหลายที่เดินทางมายังวัดท่าขนุนเพื่อจะทำบุญทำกุศลในวันนี้ เป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยทั้งส่วนของทาน ศีล และภาวนา โดยครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากว่าเรามาวัด เราก็ตั้งใจมาทำบุญทำกุศล ในส่วนของวัตถุทาน เราก็นำเอาข้าวปลาอาหารก็ดี ปัจจัยไทยธรรมก็ดี สิ่งของเครื่องสังฆทานก็ดี มาถวายเอาไว้ในพระพุทธศาสนา ถือว่าท่านทั้งหลายได้สร้างสมบุญกุศลในทานบารมี ในจาคานุสติอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อท่านเดินทางมาถึงวัด ท่านทราบว่าก่อนจะเริ่มพิธีสงฆ์ต้องมีการสมาทานศีล ทุกคนตั้งใจสมาทานและรักษาศีลด้วยความเคารพ ก็แปลว่าเราเป็นผู้ประกอบไปด้วยศีลมัยอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ ถ้าหากว่าเราสามารถรักษาศีลได้มั่นคง อานุภาพของศีลนั้น ก็จะกลับมารักษาเราในภายหลัง

ในส่วนของศีลนั้นเราจะต้องเป็นผู้ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล จึงจะเรียกได้ว่าเป็นศีลที่สมบูรณ์พร้อม ในส่วนของภาวนามัยนั้น ญาติโยมทั้งหลายเมื่อฟังธรรมก็ตั้งจิตตั้งใจน้อมลงฟังด้วยความเคารพ ขณะเดียวกันส่วนใดที่ทำได้ ท่านทั้งหลายก็นำไปปฏิบัติ ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระทรงสิริสวัสดิ์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก็แปลว่าท่านทั้งหลายนั้น เป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยภาวนามัยเป็นปกติอยู่แล้ว แปลว่าบุญกิริยาวัตถุใหญ่ ๆ ทั้ง ๓ ประการ คือ ทาน ศีล ภาวนา ท่านได้ทำโดยสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว

โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งสงกรานต์นี้ ตลอดจนเลยสงกรานต์ไป ๒ วัน รวมเวลา ๕ วันนั้น มีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่มาสมัครบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ คือ ๘๔ พรรษา ก็แปลว่าญาติโยมส่วนนั้น ตั้งใจมาปฏิบัติในภาวนามัยอย่างเต็มที่ ซึ่งการภาวนานั้นถือว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีบุญในส่วนอื่นที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2012 เมื่อ 13:23
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา