เนื่องจากว่าในช่วงพรรษา นางวิสาขามหาอุบาสิกาผู้มีจิตศรัทธา ได้ให้คนใช้ไปนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทั้งอาราม เพื่อไปฉันภัตตาหารที่บ้าน แต่สาวใช้ไปถึงในขณะที่ฝนกำลังตก พระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้นก็เปลือยกายอาบน้ำฝนกัน การเปลือยกายในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะบรรดานักบวชนิกายต่าง ๆ ที่ไม่มีความเข้าใจอย่างแท้จริง เห็นว่าแม้แต่เสื้อผ้าก็เป็นกิเลส จึงต้องสละผ้าทิ้งทั้งหมด กลายเป็นศาสนาเชนที่มีนักบวชแก้ผ้ากันเป็นปกติ
เมื่อสาวใช้ไปเห็นพระภิกษุกำลังเปลือยกายอาบน้ำกันอยู่ ก็กลับมาบอกกับนางวิสาขาว่า "พระแม่เจ้า ในพระอารามไม่มีพระภิกษุสงฆ์เลย มีแต่บรรดาชีเปลือยกำลังอาบน้ำฝนกันอยู่" นางวิสาขาพอได้ยินเช่นนั้นก็มีความเข้าใจว่า เมื่อฝนตกพระท่านก็ย่อมจะสรงน้ำกันเป็นปกติ จึงรอจนกระทั่งฝนหยุด แล้วค่อยให้สาวใช้ไปใหม่ บอกว่าตอนนี้ไปได้แล้ว พระคุณเจ้าได้กลับไปที่วัดแล้ว เมื่อสาวใช้ไปถึง ก็ได้พบกับพระภิกษุห่มครองจีวรเรียบร้อย จึงนิมนต์ให้ไปฉันที่บ้าน
นางวิสาขาเมื่อได้ทราบเหตุดังนั้นจึงปรารภว่า พระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนาของเรา ไม่ควรที่จะกระทำการเหมือนดังนักบวชในศาสนาอื่น จึงได้ขออนุญาตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำการถวายผ้าอาบน้ำฝน เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้อาบน้ำฝนกัน จึงกลายเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีสืบ ๆ กันมาจนถึงในยุคปัจจุบันนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2015 เมื่อ 14:53
|