ดังนั้น...ต้องระวังให้ดีครับ มันจะมีกำลังมากกว่าเดิมครับ เพราะเราไปสนับสนุนกิเลสโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้ถ้าหากว่าเราอ่านเกมเป็น แก้เกมเป็นไปเรื่อย ๆ ความชำนาญก็จะมี แล้วถึงเวลาใครเขามาถาม เราบอกได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถทำถึงจุดนี้ได้ อันดับแรก ผลประโยชน์ของตัวเองในการปฏิบัติก็จะไม่มี อันดับที่สองเราแบกชื่อวัด แบกชื่อหลวงปู่ หลวงพ่อ ของเราอยู่ ถ้าเกิดว่าเราไปหลุด กาย วาจา ใจ ที่ไม่ดีให้โยมเขาเห็น เขาไม่ได้ว่าเรา เขาจะบอกว่า "อะไรวะ..พระหลวงพ่อทำได้แค่นี้เองหรือ ?" ฉิบหา..แล้ว..เขาไม่ได้ว่าแต่เราแล้ว เขาว่าวัดท่าซุงไปด้วย เขาว่าหลวงปู่หลวงพ่อไปด้วย เพราะฉะนั้น..พวกเราจะต้องรู้สำนึกตัวเอง สมัยผมอยู่กับหลวงพ่อ ท่านบอกว่า "แกไปไหนบอกเขาว่าอยู่วัดท่าซุง แกเคยพิจารณาหรือเปล่าว่า แกเอาซุงดี ๆ หรือซุงผุ ๆ ไปอวดเขา ?"
ผมตัดสินใจออกจากวัดมาเพราะสาเหตุพวกนี้เป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าตอนนั้นถ้าอยู่วัดต่อ ผมจะเป็นมาเฟียแล้ว พระพี่พระน้อง ๔๐ กว่ารูป ผมบอกซ้ายหัน ขวาหัน จะมีหันตามมาประมาณ ๓๐ รูป คุณคิดดูแล้วกัน ถ้าเราไปอยู่ตรงจุดนั้น เราจะหาความก้าวหน้าไม่ได้ เพราะคนอื่นเขาให้เครดิตเราสูงสุด เราไม่มีคู่แข่ง ในเมื่อไม่มีคู่แข่ง ก็วัดตัวเองไม่ได้ ถ้าสามารถรักษาความดีไว้ได้...ก็ได้แค่นั้น แต่ถ้ารักษาความดีไว้ไม่ได้ เราถอยหลังแน่นอน แล้วหากว่าถอยมาจนกระทั่งความดีหมด คราวนี้แย่กว่าหมาเยอะเลย..!
ที่ผมตัดสินใจออกจากวัดมานั้น เรื่องนี้เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุด เพราะผมรู้ว่าความดียังไม่พอ ผมต้องไปหาเพิ่ม วิธีที่จะหาเพิ่มนั้นมีทางเดียวคือต้องไปผาดโผนในยุทธจักร เพราะว่าแรงกระทบจะเยอะที่สุด ไม่ว่าคุณจะทำอะไรนี่...มือตีนมารอบข้างเลย ไม่ใช่ประเภทช่วยกันผลักช่วยกันดันนะ แต่ทั้งถีบทั้งอัดเราเลย แต่ผมมั่นใจว่า สิ่งที่หลวงพ่อสอนมา กับสิ่งที่ผมพยายามกอบโกยใส่ตัวไว้นี่ อย่างน้อย ๆ ผมพอที่จะยืนหยัดอยู่ได้ แม้ว่าจะเซบ้าง เอียงบ้าง แต่ไม่ถึงกับล้มขายหน้าเขาแน่นอน ผมมั่นใจผมถึงกล้าออกมา...
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2009 เมื่อ 03:37
|