ของหาย
การที่เราทำงาน คอยตามรับใช้หลวงพ่อ จริง ๆ แล้วก็คือการปฏิบัติ ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาก็คือการปฏิบัติ ต้องประคองสติไว้ให้ดี ถ้าโดนหลวงพ่อดุนี่ต้องเตรียมใจรับไว้เลย จะต้องทำหน้ายิ้มให้ได้ บางคนนี่โดนแล้วไม่กินข้าวเลยเป็นอาทิตย์
บางอย่างเราคิดว่าที่เราทำนั่นดีแล้ว แต่ท่านคิดไม่เหมือนกับเรา
อย่างไปต่างประเทศ โยมเขาก็ถวายกล่องมาเยอะแยะ แล้วหลวงพ่อท่านก็เอามาวางไว้บนตู้...สูงเลย เราก็ไปดู กลัวมันจะหล่น ท่านเรียงเอากล่องใหญ่วางข้างบน กล่องเล็กอยู่ข้างล่าง ใครให้ของใส่กล่องมาท่านก็มาวางซ้อน ๆ
เราก็บอกกับหลวงพี่อาจินต์ว่า "หลวงพี่อาจินต์ เราไปช่วยจัดห้องหลวงพ่อกันเถอะ"
เราก็รื้อออกมาเรียง ๆ เอากล่องใหญ่ไว้ข้างล่าง กล่องเล็กไว้ข้างบน จัดจนกระทั่งเรียบร้อยดี
พอหลวงพ่อท่านมา ท่านบอกว่า "ของที่เขาถวายข้ามา มันหายไปไหนหมด"
ตายห่าแล้ว...ของหาย ก็เลยบอกท่านว่า "ของไม่หายครับ ก็อยู่ข้างบน"
"ใครมาจัดไว้นี่"
"พวกผมมาจัดครับ"
"ทีหลังไม่ต้องเสือกมาแตะของ ๆ ข้านะ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าใครถวายอะไรมา"
คือ ท่านจะจำ ใครถวายของอะไรมาท่านก็จะเอาวางเรียง คนที่สองถวายมาท่านก็วาง ท่านก็จะจำของท่านได้ เราไปเรียงสลับตำแหน่งหมดเลย ท่านจำไม่ได้แล้ว ทีหลังเราเลยไม่แตะ
เราก็ต้องคอยประคับประคองสติอยู่เรื่อยเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเราก็โดนเขี่ยไปนานแล้ว เพราะต้องทำงานให้ท่านละเอียดให้ได้ ทำแล้วต้องทุ่มเท ไม่ใช่ทำแล้วอยากได้หน้า สมัยแรก ๆ นี่ทำแล้วอยากได้หน้า หลวงพ่อท่านรู้ ท่านเดินมาสะบัดหน้าใส่เราเลย รู้สึกขายหน้าท่านมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 30-09-2014 เมื่อ 12:31
|