ดูแบบคำตอบเดียว
  #12  
เก่า 29-04-2016, 16:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,148
ได้รับอนุโมทนา 4,405,388 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แล้วประเภทเลี้ยงลูกโง่จนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลูกใคร ถึงเวลาต้องไปถามเขาว่า “มึงรู้หรือเปล่าว่ากูลูกใคร ?” ถ้าเลี้ยงลูกโง่ขนาดไม่รู้ว่าตัวเป็นใครหรือว่าพ่อเป็นใคร ก็อย่าไปเลี้ยงเลย เสียดายอาตมาบวชเสียก่อน ไม่อย่างนั้นพวกประเภทที่ถามว่ารู้ไหมพ่อกูเป็นใครนี่ รับรองว่าจะจำพ่อแม่ได้เดี๋ยวนั้นเลย เพราะนิสัยอาตมาก็คือกระทืบให้กระดิกไม่ได้ ยังมีส่วนไหนกระดิกได้ก็กระทืบต่อไป...!

เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้ว่าได้อ่านหนังสือเรื่องพ่อแม่รังแกฉันกันบ้างหรือเปล่า ? ประเภทกว่าจะรู้ตัวก็ไปไหนไม่รอด พ่อแม่ตายหมด ตัวเองทำอะไรไม่เป็น ล่าสุดเพิ่งจะมีลูกเศรษฐีสั่งซื้อรถยนต์ ๗ คัน มีโรลส์รอยซ์ เบนท์ลี่ พวกนั้น ซื้อไปทำอะไร ๗ คัน ? ขับคนเดียวได้หรือ ? หรือว่าขับคันหนึ่งจูงตามไปอีก ๖ คัน ? แล้วเรื่องของเด็กเขาเหมือนอย่างกับผ้าขาว เราวาดอะไรลงไปเราก็ได้ผลงานอย่างนั้นแหละ ฉะนั้น...ต้องวาดให้ดีเสียตั้งแต่แรก

ถ้าถามว่าวาดให้ดีเสียตั้งแต่แรกจะเป็นการบังคับเด็กเกินไปไหม ? ถ้าเด็กไม่โดนบังคับก็เสียเด็กหมด พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า “สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนเกรงอาชญา” คือกลัวการลงโทษ ถ้าหากว่าไม่มีการลงโทษ เมตตาอย่างเดียว จะทำให้บุคคลที่มีนิสัยน้อมไปในทางต่ำไม่เกรงกลัว อาตมาสรุปให้กับตนเองได้ตั้งแต่สมัยฆราวาสว่า คนเราไม่กลัวคนดีหรอก เขากลัวแต่คนที่ชั่วกว่า..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงจำเป็นต้องมีการกำราบกันเสียก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของส่วนรวม ถ้าหากว่าปล่อยให้เด็กทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่ห้ามปราม ไม่สอนให้รู้ว่าที่ไหนเหมาะ ที่ไหนควร ต่อไปลูกจะแปลกแยกจากสังคม เข้ากับใครไม่ได้ เพราะว่าไปถึงก็ทำตามใจตัวเอง เลยกลายเป็นเรื่องผิด ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2016 เมื่อ 19:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา