ดูแบบคำตอบเดียว
  #13  
เก่า 29-04-2016, 17:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แล้วอย่าไปหวังว่าครูบาอาจารย์จะสอนได้ เพราะครูบาอาจารย์คนแรกอยู่ในบ้าน ถ้าหากว่าพ่อแม่ปั้นออกมาไม่ได้ ส่งต่อให้ครูปั้น กว่าจะไปถึงโรงเรียนได้ก็ ๓ ขวบ ๖ ขวบ แล้วก็ไม่ต้องหวังว่าพระจะช่วยได้ เพราะกว่าจะบวชได้ก็อายุ ๒๐ ปี มีหลายรายเอาลูกมาถึงก็ “ท่านเจ้าขา ช่วยอิฉันหน่อย สอนให้มันเป็นคนดีทีเถอะ มันเกเรเหลือเกิน” ถามว่าลูกโยมจะบวชกี่วัน ? บอกว่า ๗ วัน ตัวเองสอนมา ๒๐ ปีสอนลูกให้ดีไม่ได้ มาอยู่วัด ๗ จะให้สอนลูกให้เป็นคนดีได้ก็อัศจรรย์แล้ว

เรื่องพวกนี้ถ้าเปรียบไปแล้วเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติธรรมก็คือ “เมตตาเกินประมาณ” ไม่มีตัวอุเบกขา ในเมื่อขาดอุเบกขาก็จะทำให้เดือดร้อนภายหลัง ขณะเดียวกันกำลังใจของเราก็ไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถที่จะวางอุเบกขาได้ โยมแม่ของอาตมามีลูก ๑๓ คนเลี้ยงด้วยไม้มาตลอด ไม่อย่างนั้นลองนึกดูว่าไอ้ลิงน้อย ๑๐ กว่าตัว อาละวาดขึ้นมาพร้อม ๆ กันแล้วใครจะเอาอยู่ ? จึงต้องเลี้ยงด้วยไม้ ถ้าหากว่าทำอีกก็โดนอีก ต้องลักษณะอย่างนั้น

นักปกครองที่ดีต้องเริ่มต้นที่บ้านตัวเอง ถ้าปกครองในบ้านดีได้ ก็สามารถปกครองส่วนรวมให้ดีได้เหมือนกัน ถ้าบ้านตัวเองเอาดีไม่ได้ ก็ไม่ต้องหวังว่าจะไปปกครองใคร พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัด ๆ ว่า “ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที” ก็คือ “พูดอย่างไรต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างไรก็ต้องพูดอย่างนั้น” ไม่อย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นหลายมาตรฐาน แล้วบ้านเมืองจะเละเทะหมดอย่างทุกวันนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2016 เมื่อ 19:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา