ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 05-05-2010, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,723 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่เราไม่ต้องถึงขนาดนั้น เอาแค่ให้รู้ว่าหน้าที่ปัจจุบันของเราคืออะไร แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำ อย่าไปทิ้งก็พอ

เรื่องอื่นเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ในเรื่องของส่วนประกอบ ถ้าคนมีสติสัมปชัญญะอยู่ตรงหน้า ก็สามารถที่จะทำไปพร้อม ๆ กับการเจริญกรรมฐานได้ แล้วบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะอยู่ตรงหน้า จะทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่าปกติ เอ้า..ใครมีอะไรอีก ?

ถาม เวลาความทุกข์เกิดขึ้น เราไม่สามารถจะกำหนดได้ว่าเป็นเรื่องอะไร ควรจะทำอย่างไร ?
ตอบ นั่นใจหลุดไปจากอารมณ์เฉพาะหน้าแล้ว เมื่อใจหลุดไปจากอารมณ์เฉพาะหน้า เราต้องตั้งสติเท่าที่พอมีอยู่กำหนดดูว่า ตอนนี้ความทุกข์เกิดขึ้นในใจ นี่ถ้าหากว่าเป็นกรรมฐานในสติปัฏฐาน ๔ จะเป็นส่วนของจิตในจิต กับ ธรรมในธรรม

จิตในจิตก็คือ ทันทีที่มีอารมณ์เกิดขึ้นมาในจิตขณะนั้น แล้วเราตามดูมัน ว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้สุขหรือทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์ เรามีหน้าที่กำหนดดู กำหนดรู้ รู้ไว้เฉย ๆ ไม่ต้องไปแบกมันขึ้นมา รู้ว่ามันมีสภาพปกติเป็นทุกข์อย่างนี้

ถ้าหากว่าเรามีสติตามดูตามรู้ไปเรื่อย ๆ เราก็จะค่อย ๆ เห็นเองว่า ทุกข์ตัวนี้เกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนใหญ่ก็คือเราหลุดจากการภาวนาในอารมณ์เฉพาะหน้า แล้วไปปรุงแต่งตาม ถ้าเราไม่คิด ไม่ปรุงแต่ง ผมขอยืนยันว่าเราจะไม่ทุกข์

จำไว้ว่าไม่ต้องทำอะไรมาก ขอให้รู้ไว้เฉย ๆ ตามดูไปเรื่อย ๆ เจ้าพวกนี้ขี้อาย พอเราตามจี้ดูไปจริง ๆ มันจะหยุดเลย ไปต่อก็ไม่เป็นอีก ท่านอื่นมีอีกไหม ? ถ้าไม่มีวันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะ...

------------------------------
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2010 เมื่อ 03:09
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา