ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 25-06-2013, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,915 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะเดียวกัน การปฏิบัติของเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปบอก ไปกล่าว ไปพูดในเรื่องของภาษาธรรมมากจนเกินไป ใช้วิธีประคับประคองกำลังใจของเราเอาไว้ ทำในลักษณะที่เราพร้อมจะไปอยู่ตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็ยังเอื้อเฟื้อต่อกำลังใจของผู้อื่นเขา อย่างน้อย ๆ ถ้าการปฏิบัติของเรามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างชัดเจน มีกาย วาจา ใจที่พัฒนาขึ้นมาในทางที่ดีอย่างชัดเจน ถึงเวลาถ้าเขาสนใจหรือสงสัยสอบถามขึ้นมา เราก็บอกเขาไปว่าเกิดจากการปฏิบัติธรรม ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่จะเชื่อและเลื่อมใส เพราะมีเราเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นอยู่แล้ว

แต่ถ้าเราเอาแต่ตัวของเรารอด แล้วเป็นทุกข์เป็นโทษให้คนอื่นเดือดร้อนทั้งหมด โดยเฉพาะลูกเล็ก ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย ย่อมต้องคิดถึง ย่อมต้องรัก ย่อมต้องหวังความอบอุ่นของผู้เป็นแม่ แต่เรากลับทิ้งไปเลย อาจจะทำให้ลูกเกิดปมด้อย และมองศาสนาในแง่ร้ายไปทีเดียว โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมของเขาก็ไม่มี เมื่อได้ชี้แจงไปอย่างนี้ ทางฝ่ายคนเป็นลูกถึงได้พยายามลดตัวเองลงมา พูดคุยกับพ่อแม่ของตัวเองได้

ที่นำเรื่องนี้มากล่าวเพื่อจะเตือนพวกเราว่า การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นของดี แต่ตัวเราผู้ปฏิบัติธรรมนั้นดีจริงหรือเปล่า ? ถ้าดีจริงต้องมีการพัฒนากาย วาจา ใจของตน โดยเฉพาะตัวเราเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อคนอื่นเขามองเห็นพัฒนาการที่ดีของเรา ก็จะเกิดการเลื่อมใสศรัทธา อยากจะปฏิบัติตามบ้าง ถ้าอย่างนี้ก็นับว่าเราเป็นผู้เสริมส่งพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง

แต่ถ้าเราทำตนในลักษณะของการตัดละ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว อาจจะทำให้คนรอบข้างมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา อาจจะสร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่เขา ต้องตกสู่อบายภูมิเพราะปรามาสพระรัตนตรัย ต้องหมดโอกาสที่จะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าเพราะการกระทำของเรา ก็ถือว่าเราได้สร้างกรรมใหญ่ให้แก่คนอื่นเขาแล้ว เราอยู่กับโลก เราต้องเคารพสมมติทางโลก เราจะยึดธรรม ก็ให้ยึดในลักษณะน้ำกลิ้งบนใบบอน ก็คืออยู่กับโลกนี้ อาศัยโลกนี้มองให้เห็นทุกข์อย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ติดอยู่กับโลก ถึงจะเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกาและเถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2013 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา