"ตอนช่วงเช้าต้องไปสอนพระนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก่อน พอดีเป็นช่วงที่จะให้เขาสอบเก็บคะแนน กำลังคุมสอบไปประมาณครึ่งหนึ่ง อยู่ ๆ ไข้ก็ขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แทบจะยืนไม่ติด เออหนอ..งานอะไรที่จะทำเพื่อส่วนรวมนี่ฝืนแรงกรรมยากจริง ๆ โดยเฉพาะการช่วยในหลวง เพราะเท่ากับว่าแบกกรรมแทนคนทั้งประเทศ
พอฉันเพลเสร็จก็หลบไปนอนที่วัดท่ามะขาม เพราะกำหนดการที่เป็นทางการก็คือ เสกน้ำศักดิ์สิทธิ์เวลา ๑๘.๐๙ น. พร้อมกันทั่วประเทศ รอจนกระทั่ง ๕ โมงเย็นถึงไปที่โบสถ์วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) ซึ่งเป็นพระอารามหลวง ๑ ใน ๓ แห่งของจังหวัดกาญจนบุรี
พระอารามหลวงแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ก็คือ วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ต้องบอกว่าเป็นพระอารามหลวงโดยกำเนิด มีวรวิหารต่อท้าย ส่วนพระอารามหลวงที่ยกขึ้นทีหลังนี้ จะมีวงเล็บว่าพระอารามหลวงต่อท้าย พระอารามหลวงที่ยกขึ้นก็คือ อันดับแรก วัดต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๕๐ ปี อันดับสอง ต้องมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับราชวงศ์ด้วย
วัดไชยชุมพลชนะสงครามนั้นสืบเนื่องกับสมัยรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสไทรโยค พระองค์ท่านเสด็จ ๒ ครั้ง ช่วงที่เสด็จเมืองปากแพรก หรือปัจจุบันเป็นชื่อจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากเป็นการเสด็จโดยทางชลมารค คือโดยทางเรือ ชาวบ้านก็ต้องมารวมกันเพื่อที่จะรอรับเสด็จที่ริมน้ำ ปรากฏว่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ ไปรวมกันตั้งพลับพลารับเสด็จที่วัดเหนือ ปัจจุบันก็คือวัดเทวสังฆาราม
แต่พวกบรรดาทหารทั้งหมดไปตั้งกองรับเสด็จที่วัดใต้ ก็คือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ส่วนชาวบ้านทั้งหมดไปตั้งพลับพลารับเสด็จที่วัดวัดท่ามะขาม หรือ วัดราษฎร์ประชุมชนาราม "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2011 เมื่อ 11:33
|