[คิมหันต์]

พระอุโบสถกลางทะเล วัดไจ๊คะมี

สองข้างทางมีแต่สวนยางพารา รถวิ่งไปประมาณหนึ่งชั่วโมง มาถึงเมืองไจ๊คะมี ของรัฐมอญ โกวินพารถไปยังวัดไจ๊คะมี ชื่อเดียวกับเมือง ตัววัดสร้างลึกลงไปในทะเล มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ตามประวัติว่าลอยน้ำมา โบสถ์ ศาลา ประกอบด้วยโลหะฉลุเป็นลวดลายอ่อนช้อยสวยงามมาก น่าเสียดายที่เขาสร้างสะพานลอยเข้าโบสถ์ บังทัศนียภาพที่สวยงามไปเกือบหมด...

สะพานลอยเข้าสู่โบสถ์กลางทะเล บังตัวโบสถ์เกือบหมด

ทางเดินเก่าที่เป็นชั้นล่าง ถูกน้ำท่วมประจำจนมีเพรียงขึ้นเยอะแยะ ที่น่าแปลกคือ พื้นโบสถ์ต่ำกว่าทางเดินนี้มาก แต่น้ำไม่สามารถเข้าไปในโบสถ์ได้ ถ้าไม่ใช่การออกแบบอย่างแยบยลของวิศวกรโบราณ ก็แสดงว่าพระพุทธรูปท่านขลังเอาจริง ๆ พวกเราเดินเท้าเปล่าเข้าไปกราบพระในโบสถ์ วินจีตามมาเป็นมัคคุเทศก์จำเป็นให้...

โบสถ์ทั้งหลังมีเสาแค่ ๗ ต้น แทนความหมายของโพชฌงค์ ๗ พระประธาน ๔ ทิศ คืออริยสัจ ๔ พระพุทธรูปข้างบนตรงกลาง ๙ องค์ แทนพระพุทธคุณ ๙ ประการ พระพุทธรูป ๘ องค์ข้างล่าง แทนมรรค ๘ อยู่ชั้นบนสุดที่มีพญานาคแผ่พังพานโอบเอาไว้ คือพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยน้ำมา มีคนเห็นพญานาคมาปรากฏหลายวาระ จึงสร้างพญานาคปรกพระพุทธรูปเอาไว้ด้วย...

พระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาจากศรีลังกา

ข้างทางเดินลงทะเลมีพระอุปคุตตั้งอยู่พร้อมเครื่องบูชา ซึ่งเป็นงาช้างแกะสลักอย่างงดงาม และยังมีงาช้างขนาดใหญ่อีกคู่วางเป็นกรอบอยู่ เล่นวางเอาไว้โล่ง ๆ ไม่มีอะไรปิดบังขวางกั้น ถ้าเป็นของบ้านเรา ไม่ทันข้ามวันคงแสดงปาฏิหาริย์หายวับไปซึ่ง ๆ หน้า แต่นี่นอกจากคนมากราบไหว้บูชาแล้ว ไม่เห็นเขาแสดงความสนใจจะหยิบฉวยอะไรเลย…

พระอุปคุตพร้อมงาช้างที่ตั้งบูชาไว้โล่ง ๆ ทั้ง ๒ คู่

มัคคุเทศก์ผิวหมึกนำลงไปชมหอพระชายทะเล เขาสร้างรูปทรงเหมือนประภาคาร อยู่บนโขดหินกลางน้ำ ตามทางเดินมีแต่เพรียงหัวหอมเต็มไปหมด สาหร่ายชนิดหนึ่งขึ้นกับก้อนหิน คล้าย ๆ ตะไคร่สีดำ วินจีบอกว่าเอามายำกินเป็นอาหารได้ น้ำทะเลขุ่นเป็นตมไม่ค่อยน่าดู ทั้งที่เป็นทะเลต่อเนื่องกับอันดามัน ซึ่งน้ำควรจะใสกว่านี้...