ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 19-04-2024, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,610
ได้ให้อนุโมทนา: 151,798
ได้รับอนุโมทนา 4,412,333 ครั้ง ใน 34,198 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะเดียวกัน การธุดงค์ในปัจจุบันนี้ล้วนแล้วแต่ทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธาเกือบทั้งนั้น เท่าที่กระผม/อาตมภาพพบมาด้วยตนเอง บุคคลที่ออกธุดงค์นั้น ส่วนหนึ่งนั้นเพราะว่าอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ เป็นบุคคลที่ชอบทำอะไรตามใจตนเอง แม้แต่ครูบาอาจารย์ว่ากล่าวสั่งสอน ก็ทนรำคาญไม่ได้ ท้ายสุดก็แบกกลดสะพายบาตรหนีเข้าป่า..!

บางท่านก็ออกธุดงค์เสียตั้งแต่วันแรกที่บวชเลย..! ซึ่งไม่ทราบว่าไปเอาแบบธรรมเนียมที่ไหนมา เพราะว่าความรู้อะไรก็ไม่มีสักอย่าง วิชาที่จะคุ้มตนเองก็ไม่มีสักอย่าง อาศัยเห็นภาพเขาแบกกลด สะพายบาตร มีกาน้ำ ก็ทำตามเขาไป แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ไปทำผิดทำพลาด ให้คนเสื่อมศรัทธา

กระผม/อาตมภาพเอง เจอบางคณะเข้าไปดูดยาบ้ากันในป่า..! เมื่อถึงเวลาโดน "ม้าดีด" ตามศัพท์ของผู้ดูดยาบ้า ก็วิ่งแข่งกันขึ้นเขาบ้าง ตกมันจนกระทั่งไม่รู้จะทำอะไร ก็เอามีดสปาตาร์ฟันหัวกันเองบ้าง จนพวกกระผม/อาตมภาพต้องหามร่องแร่งกันออกมาส่งโรงพยาบาล จะปล่อยให้ตายหรือก็เกรงใจ เพราะว่าอย่างน้อยก็เป็นนักบวชห่มเหลืองเช่นกัน แต่ความประพฤติปฏิบัติ
ของท่านนั้น แทบจะไม่มีความเป็นนักบวชอยู่เลย

บางท่านถึงขนาดมีฉายาเป็นที่รู้กันในวงการ อย่างเช่น "ท่านตั๊กม้อ" ต้องขออภัยที่เอ่ยถึง ท่านนี้รูปร่างล่ำสันอ้วนใหญ่มาก แล้วก็สักลายทั้งตัว หุ่นเหมือนกับหลวงจีนรบวัดเส้าหลิน เขาจึงให้ฉายาว่า "ท่านตั๊กม้อ" แต่ตอนนี้ท่านมรณภาพแล้ว เหตุเพราะว่าไปในห้วยขาแข้ง แล้วเห็นซากสัตว์ป่าที่เสือกัดล้มอยู่ในแหล่งน้ำ ก็ตรงไปเพื่อที่จะเถือเอาเนื้อมาทำภัตตาหาร

แต่ว่าเสือนั้นไม่ได้หนีไกล เพียงแต่ว่าตกใจที่มีคนมา จึงหลบไปก่อน ครั้นเห็นท่านตั๊กม้อไปเชือดเนื้อสัตว์ที่ตัวเองล้มเอาไว้ ก็หวงของขึ้นมา จึงกระโดดกัด ทำให้ท่านตั๊กม้อคอหักตาย ภายใต้การกัดเพียงครั้งเดียวของเสือใหญ่ตัวนั้น..!

อีกท่านหนึ่ง มีฉายาว่า "ท่านสันขวาน" ซึ่งตอนแรก กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยว่าทำไมมีฉายาประหลาดแบบนี้ เพราะว่าสมัยที่กระผม/อาตมภาพเด็กอยู่นั้น ถ้าเรียกใครว่าไอ้สันขวาน แปลว่าโง่ทึบจนกระทั่งไม่รู้ภาษามนุษย์ ปรากฏว่าเจอหน้ากันครั้งแรก ท่านสันขวานก็มาลูบ ๆ คลำ ๆ บาตรของกระผม/อาตมภาพ แล้วก็บอกว่า "บาตรท่านสวยดี ขอผมเถอะ..!"

กระผม/อาตมภาพก็อึ้งไปพักใหญ่ เข้าใจทันทีว่าทำไมพรรคพวกถึงได้เรียกท่านว่าสันขวาน เนื่องเพราะว่าบาตร จีวร สังฆาฏิ และสบงนั้น เป็น ๔ อย่างในอัฐบริขารที่พระเราขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ส่วนอื่นยังพอขาดได้ ถ้าหากว่าขาด ๔ อย่างนี้ พระอุปัชฌาย์ไม่สามารถที่จะบวชให้ได้ แต่ว่าพระอุปัชฌาย์ที่ท่านเมตตา บางทีท่านก็จัดหาให้จนครบถ้วน แล้วก็บวชให้เช่นกัน สรุปว่าเจอหน้าก็ขอเครื่องมือหากินกันเสียแล้ว โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่ากระผม/อาตมภาพจะอยู่อย่างไร ถึงได้เข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้ฉายาแบบนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2024 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา