ดูแบบคำตอบเดียว
  #48  
เก่า 25-05-2014, 17:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนผลไม้ที่ดังมาก ๆ เลย คือลิ้นจี่ตรอกจันทน์ ส้มบางมด ทุเรียนเมืองนนท์ แล้วสมัยนี้มีลิ้นจี่ตรอกจันทน์ไหม ? ส้มบางมดก็ไม่มี เดี๋ยวนี้ทุเรียนเมืองนนท์ราคาเป็นพันเป็นหมื่น มีเงิน ๕,๐๐๐ ไม่รู้ว่าจะซื้อได้หรือเปล่า ?

อาตมาเป็นคนไม่ชอบกินทุเรียนนะ แต่ชิมทุเรียนเมืองนนท์แล้วยอมรับว่าอร่อยจริง ๆ ตอนนั้นคุณลำพูภรรยาของคุณผดุงเกียรติ ขำภักดี นิมนต์ไปที่บ้าน แม่ของคุณผดุงเกียรติอายุจะ ๘๐ ปีอยู่แล้ว ปีนต้นทุเรียนไปเก็บมาให้ เขาบอกว่าต้นนี้อร่อยที่สุด เอามาถวายพระอาจารย์หน่อย

แสดงว่าคนสมัยก่อนเขาแข็งแรง ทำงานกันทั้งวัน ให้อยู่เฉย ๆ ไม่อยู่หรอก ทำนั่นทำนี่ไปเรื่อย พอชิมทุเรียนเมืองนนท์เข้าไป โอ้...อร่อยเว้ย ก่อนหน้านี้อาตมาว่าทุเรียนรสชาติไม่เอาไหน สมัยเด็ก ๆ ก็ไม่ชอบเพราะกลิ่นแรง

ไปนึกถึงหลวงปู่รูปหนึ่งสายหลวงปู่มั่น ท่านไม่รู้จักทุเรียน เพราะว่าทางอีสานไม่มี วันนั้นโยมจอดรถใส่บาตร น่าจะเป็นพวกกรุงเทพฯ พอโยมไปได้พักหนึ่ง กลิ่นทุเรียนออก..ท่านก็คิดว่าอะไรเหม็นอย่างนี้วะ ? ค้นไปค้นมาเจอ ขนุนเน่าดันเอามาใส่บาตร ว่าแล้วก็โยนทิ้งข้างทางไป เณรมารู้ทีหลัง น้ำตาแทบเล็ด อยากจะฉันทุเรียน หลวงปู่ไม่รู้จัก นึกว่าขนุนเน่าเอาโยนทิ้งไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2014 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา