พระอาจารย์เล่าว่า "เห็นรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงงาน ทำให้นึกถึงคราวที่พระองค์ท่านเสด็จไปดูต้นกาแฟต้นเดียว ช่วงแรก ๆ ที่พระองค์ท่านตั้งใจให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น แล้วแนะนำให้ปลูกพืชอื่น พระองค์ท่านเอาพันธุ์กาแฟเข้าไปให้ ปรากฏว่ากาแฟที่ชาวเขาปลูกตายหมด มีรอดอยู่ต้นเดียว
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทูลเชิญเสด็จในหลวงไปดูต้นกาแฟ เดินข้ามเขาไปเป็นลูก ๆ เลย ไปเจอกาแฟต้นเดียว พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร ตอนนั้นน่าจะอยู่ระดับพันโทพันเอก โมโหไฟแลบเลย ให้ในหลวงเดินข้ามเขาไปตั้งกี่ลูก มาดูกาแฟแค่ต้นเดียว เลยไปโวยวายกับบรรดาข้าราชสำนักด้วยกัน
ความไปทราบถึงพระองค์ท่าน ทรงตรัสว่า ที่ไปดูเพราะว่าเขาไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน ดูแลไม่เป็นต้นกาแฟจึงตายหมด แต่ชาวเขาคนนั้นปลูกแล้วต้นกาแฟรอดได้ จึงพระราชทานพันธุ์ใหม่ไปให้ แล้วให้ชาวเขาคนนั้นไปแนะนำเพื่อน ๆ ว่าปลูกอย่างไรถึงจะรอด คุณวสิษฐถึงได้รู้ว่า วัตถุประสงค์ที่พระองค์ท่านไปยิ่งกว่าการดูกาแฟต้นเดียว เพราะว่าปีถัดมาต้นกาแฟที่พระราชทานไปทั้งหมดรอด ไม่มีตายสักต้นหนึ่ง คนปลูกเป็นคนบอกเพื่อน เพื่อนทำตามก็รอด
หลังจากนั้นได้ผลแล้ว ระหว่างกิโลกรัมต่อกิโลกรัม เขาขายกาแฟได้ราคาแพงกว่าฝิ่น ชาวเขาก็เลยหันมาปลูกกาแฟที่ไม่ผิดกฎหมาย ท้ายสุดก็มาปลูกพืชเมืองหนาว พวกสตรอว์เบอร์รี พวกท้อ อะไรต่อมิอะไรก็ตามมา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2018 เมื่อ 03:16
|