"พอท่านรำคาญคน ทนไม่ไหว ท่านก็หอบกลดหอบบาตร ธุดงค์หายเข้าป่าไปเลย ๗ ปี ๘ ปี อาตมาเองก็ใกล้เคียงแล้ว เดี๋ยวรอความรำคาญเพิ่มขึ้นอีกนิดหนึ่งก่อน หลวงปู่สายหายไปนานมาก แต่ต้องบอกว่าดวงของคนทองผาภูมิยังดีอยู่ เพราะว่าปีนั้นมีการตรวจการณ์คณะสงฆ์ของอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี สั่งให้เจ้าคณะตำบลทุกตำบลสำรวจทุกวัดว่ามีพระตามความเป็นจริงกี่รูป ให้จดชื่อจดฉายาวันเดือนปีบวชมาให้หมด
ปรากฏว่าไปเจอหลวงตาแก่ ๆ ผอม ๆ รูปหนึ่ง ยื่นหนังสือสุทธิให้ เป็นพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ...(หัวเราะ)... ทางด้านนี้พอได้ยิน ก็จัดขบวนรถวิ่งไปนิมนต์หลวงปู่กลับมาแบบรีบด่วนที่สุด หลวงปู่ท่านไปเป็นพระลูกวัดแก่ ๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นถึงเจ้าคณะอำเภอ
ช่วงนั้นก็มีพระทางด้านกาญจนบุรีขึ้นมาดูแลที่นี่อยู่หลายรูป ก็มีพระมหาทอมสันต์ ซึ่งปัจจุบันก็คือ ท่านเจ้าคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ มีพระมหาทองดำ ซึ่งปัจจุบันก็คือท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นเจ้าคณะอำเภอดูแลที่นี่
ในส่วนนั้นต้องบอกว่าพอหลวงปู่ท่านกลับมา หากว่ายังรบกวนท่านมากเหมือนเดิมอีก ก็อาจจะมีรายการสรรเสริญเจริญพรกัน ลูกศิษย์ลูกหาก็ตกปากรับคำท่านเป็นอย่างดี เพราะกลัวหลวงปู่ท่านจะหนีอีกถ้า หากว่าดื้อ ว่ายากสอนยาก หลวงปู่ท่านจะไม่อยู่ด้วย ท่านจะไปเลย ต้องบอกว่าเป็นประวัติการณ์ที่พระสังฆาธิการระดับสูงขนาดนั้นออกธุดงค์เฉยเลย ยศตำแหน่งอะไรตูก็ไม่สนแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2016 เมื่อ 21:20
|