"...สามัคคีอีกอย่างก็คือสามัคคีในจิตใจ คือปรองดองกัน โดยเมตตากรุณากัน คนเราถ้าทำงานแล้ว ไม่เมตตากัน ไม่กรุณากัน มันแห้งแล้ง แห้งแล้งแล้วไม่รู้ว่าทำงานทำไม มีชีวิตทำไม แล้วก็ลงท้าย คนที่มีชีวิตมาแล้ว ก็ย่อมจะมีชีวิต คนที่เกิดมาแล้ว ถึงเวลาตาย เขาก็ตาย แต่ว่าคนที่เกิดมาต้องมีชีวิต เมื่อมีชีวิตแล้วก็แห้งแล้ง มันก็อยากตาย ถ้าอยากตายมันก็ไม่มีประโยชน์
ฉะนั้น..ถ้าจะมีชีวิตอยู่ ก็ต้องมีชีวิตทำงานทำการและมีความคิด ถ้ามีความเมตตากรุณาซึ่งกันและกัน ชีวิตก็ไปได้ เมื่อชีวิตไปได้แล้ว ส่วนรวมก็ไปได้ ถ้าหากว่าสามัคคีในทางเมตตากรุณา ก็หมายความว่า ถ้าเห็นคนอื่นเขาทำอะไรก็ช่วยเขา ถ้าเขาทำดีก็ชื่นชม ถ้าเขาทำไม่ดีก็ตักเตือน การตักเตือนก็ไม่ใช่ไปตักเตือนเขาอย่างที่ทำให้เขาเจ็บใจเปล่า ๆ ให้ตักเตือนเขาอย่างทำให้เขามีกำลังใจ เห็นว่าตรงไหนบกพร่อง ก็เตือนให้เขาเข้าใจ ถ้าเขาเข้าใจแล้ว เขาก็อาจจะเห็นว่า เขาบกพร่องตรงนั้น ๆ แล้วต้องแก้ไขอย่างไร นั่นเป็นเมตตา..."
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2011 เมื่อ 02:54
|