ดูแบบคำตอบเดียว
  #134  
เก่า 05-01-2011, 13:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,340 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "มหายานสายวัชรยาน เขาจะสรรเสริญวัชรปรัชญาปารมิตาสูตร ปัจจุบันนี้ภูฏานกับทิเบตจะเป็นสายวัชรยาน มหายานดั้งเดิมที่เป็นพวกมูลสรวาสติวาท แทบจะหาซากไม่เจอแล้ว

เขาบอกว่ามหายานปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพสังคมในขณะนั้น จึงจำเป็นต้องย่อหย่อนพระวินัย โดยรักษาแก่นธรรมเอาไว้ ฟังดูก็เข้าท่า แต่ถ้าไม่ใช่บุคคลที่ประพฤติปฏิบัติได้ถึงจริง ๆ จะไม่มีวันเข้าใจว่า

แท้จริงแล้วพระวินัยเป็นการปูพื้นฐานกำลังใจ เพื่อก้าวเข้าไปถึงแก่นธรรมที่แท้จริง เป็นการปรับความพร้อมจิตใจของเรา อย่างเช่นว่า วินัยของฆราวาสทั่วไปคือ ศีล ๕ ข้อ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ อยากฆ่าใจจะขาดต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ งดเว้นจากการลักทรัพย์ ล่อหูล่อตา มีราคา สวยงามแค่ไหน ต้องห้ามใจตัวเองให้ได้

งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะหล่อจะสวยขนาดไหน มีโอกาสขนาดไหน ต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ งดเว้นจากการโกหกมดเท็จ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะน่าโกหกขนาดไหน ประกอบไปด้วยผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องงดเว้นให้ได้ ละเว้นจากการดื่มสุรายาเสพติดต่าง ๆ แม้ว่าสภาพร่างกายจะโดนบังคับด้วยอำนาจสุรายาเมาต่าง ๆ ก็ต้องงดเว้นให้ได้

กำลังใจในการงดเว้นไม่ละเมิดศีลต่าง ๆ ก็คือกำลังใจที่เราใช้เท่ากับการที่งดเว้นไม่คล้อยตามกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ดังนั้น..พระวินัยจึงเป็นพื้นฐานใหญ่ที่ปูทางให้เราก้าวเข้าสู่ธรรมะอย่างแท้จริง ก้าวเข้าสู่มรรคผลอย่างแท้จริง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-01-2011 เมื่อ 21:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา