ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 14-11-2010, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,838 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น การที่เรากำหนดอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรานี้ ไม่ว่าเราจะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ตาม หรือไม่ใช้คำภาวนาก็ตามที ถ้าเราสามารถรักษาความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้า อยู่กับลมหายใจออก รู้ตลอดโดยไม่ส่งกำลังใจไปไหน ก็แปลว่าเราสร้างกุศลมหาศาลให้เกิดขึ้นกับตัวของเราเอง เพราะว่าจิตใจไม่ได้ปรุงแต่งไปในด้าน รัก โลภ โกรธ หลง มีสติอยู่กับปัจจุบันธรรม

นี่เป็นมหากุศลกามาวจรจิต ที่บังเกิดขึ้นกับใจของแต่ละคน จะสั่งสมเป็นบุญกุศล ซึ่งภายหลังจะส่งผลให้พวกเราทั้งหลายหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้

ดังนั้น ในการปฏิบัติวันนี้ ให้ทุกคนทำตามความถนัดของตัวเอง คือกำหนดดูลมหายใจเข้า ลมหายใจออก พร้อมกับคำภาวนาที่เรามีความชำนาญ ถ้าหากว่าลมหายใจเบาลง ให้กำหนดรู้ว่าเบาลง ถ้าหากว่าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าขณะนี้ลมหายใจและคำภาวนาหายไป

อย่าอยากให้เป็นอย่างนั้น และอย่าอยากให้หายจากอาการเหล่านั้น ให้รู้ทันปัจจุบันขณะอยู่ตลอดเวลา แล้วรักษาอารมณ์เอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2010 เมื่อ 13:17
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา