พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนพวกเขตการศึกษาขั้นพื้นฐาน รองผู้อำนวยการท่านขึ้นมาขอข้าวสารอาหารแห้งไปแจกพวกที่โดนน้ำท่วม เพราะวัดและโรงเรียนแถวนั้นจมน้ำหมด สงสารพวกครูอาจารย์ที่นั่น
รองผอ.มาถึงก็ไม่ดูตาม้าตาเรือ “พระคุณเจ้าครับ ถึงเวลาที่ท่านจะต้องช่วยเหลือประชาชนแล้วครับ” อาตมาบอกไปว่า “โคตรเตี่_มึ_สิ..! กูช่วยอยู่ประจำ แถวนั้นอย่างน้อยก็เอาของไปแจกให้ปีละ ๒ ครั้ง คุณเองที่เพิ่งจะโผล่หน้ามา ชาตินี้อาตมาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก” เงียบเป็นเป่าสากไปเลย พวกประเภทชอบคิดว่าพระอยู่เฉย ๆ ไม่เคยทำอะไร
เขาไม่รู้หรอกว่าวัดท่าขนุนช่วยเขาแต่ละปีเท่าไร ข้าวของที่เอาไปทั้งหมดอาตมาไม่เคยเก็บไว้เฉย ๆ พวกบรรดาผู้ที่เดือดร้อนตามป่าตามเขาลึก ๆ แม้กระทั่งวัดวาอาราม หน่วยราชการต้องพึ่งวัดท่าขนุนทั้งนั้น วัดบางแห่งต้องมาตีฆ้องร้องป่าวขอรับบริจาคในตลาดกันเป็นวัน ๆ กว่าจะได้ข้าวสารอาหารแห้งมาหน่อยหนึ่ง อาตมาบอกว่า "พวกเอ็งเอารถไปขนที่วัดท่าขนุนเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปป่าวประกาศ.." ไม่อย่างนั้นเดินกันเป็นวัน ๆ กว่าจะได้มาหน่อยหนึ่ง วัดท่าขนุนบิณฑบาตแต่ละวันข้าวของจะท่วมวัดตาย..!
ถ้าแจกให้ทหารตำรวจตามหน่วยต่าง ๆ แล้วเหลือมาก ก็จะส่งเข้าเรือนจำ แต่ว่าน่าสลดใจที่ไม่ค่อยถึงมือผู้ต้องขัง ถ้าจะให้ถึงผู้ต้องขังเราต้องไปนั่งเฝ้าเอง..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2013 เมื่อ 18:24
|