ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 31-05-2018, 07:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,780 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงนี้เราจะเห็นอปัณณกปฏิปทา คือปฏิปทาที่ปฏิบัติอย่างไรก็ไม่ผิดแน่ของพระพุทธเจ้า มี อินทรีย์สังวร ที่ให้เราสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สักแต่ว่าได้เห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่าได้รส สักแต่ว่าสัมผัส...อย่าไปคิด

ความคิดนี่เหมือนเครื่องปรุงครับ ถ้าหากเขาลวกก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำร้อนเปล่า ๆ มา ไม่มีใครกินหรอก ยกเว้นคนไม่มีจะกิน ที่หิวไส้ขาดมาหลายวัน แต่ถ้าเราไปเติมน้ำส้ม เติมน้ำปลา เติมพริก เติมน้ำตาล ใส่ถั่วลิสงบด ใส่ตังฉ่าย ใส่ผักชี ใส่ต้นหอม เอ้า...ยิ่งใส่ก็ยิ่งอร่อย เลยกินไม่เลิก แต่ถ้าเราเลิกใส่ก็เลิกกิน เรื่องของความคิดเหมือนเราใส่เครื่องปรุง ยิ่งปรุงก็ยิ่งอร่อย อร่อยแบบไหน ? อร่อยแบบหมาแทะกระดูก ไม่มีอะไรหรอก...อร่อยน้ำลายตัวเอง ถ้าหากว่าเราหยุดคิดได้ ทุกอย่างก็ไม่เป็นโทษ แต่ถ้าเราหยุดคิดไม่ได้ ก็เป็นโทษทุกเรื่องเหมือนกัน

คราวนี้การที่หยุดคิดได้ สำคัญที่สุดก็คือสติ สมาธิ สติรู้ตัวว่ากิเลสจะเกิด สมาธิเหยียบเบรกสุดตัวเลย หยุดคิด...ห้ามเกิด ใหม่ ๆ จะอยู่ในลักษณะอย่างนี้ อาศัยกำลังสมาธิกดเอาไว้ก่อน ผมถึงได้บอกพวกท่านอยู่เสมอว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมไม่ต้องเสียเวลาถามหรอก ถ้าทำไปจะได้คำตอบเอง เพราะว่าสมาธิจะเป็นคำตอบในการปฏิบัติเกือบทั้งหมด ยกเว้นการก้าวเข้าสู่มรรคผลช่วงท้าย ๆ เท่านั้น

ดังนั้น หลายท่านที่ปฏิบัติมา ทำไมยังไม่ได้ ? ทำไมยังไม่มี ? ทำไมยังไม่ดี ? ทำไมยังไม่เป็น ? อย่าถามตัวเองอย่างนั้น ให้ถามตัวเองว่าทำมาพอแล้วแน่หรือ ? ถ้าทำมาพอแล้วต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องเป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2018 เมื่อ 10:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา