ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-04-2017, 14:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เอาสตินั้นมาระลึกรู้ว่า เราต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ เราจะไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล เราจะรักษาสมาธิภาวนาของเราอยู่เฉพาะหน้า สติจะจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกนี้ จะไม่ไหลไปสู่ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ส่งใจไปทั้งในอดีตและอนาคต เราจะอยู่กับปัจจุบันเฉพาะตรงหน้า อยู่กับลมหายใจเข้าออกนี้เท่านั้น

ท้ายสุดมีสติระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ชีวิตนี้ต้องตายลงไปแน่นอน ถ้าตายแล้วขึ้นชื่อว่าการเกิดใหม่มามีความทุกข์เช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน

ถ้าสติของเราสามารถจดจ่อปักมั่นอยู่แค่นี้ สมาธิย่อมเกิดขึ้น ปัญญาก็จะตามมาว่าในส่วนของ รัก โลภ โกรธ หลง เราไม่ควรที่จะไปแตะต้อง เราควรที่จะเกาะศีล เกาะสมาธิ เกาะปัญญา เกาะพระนิพพาน ปล่อยวางซึ่งร่างกายนี้ เมื่อท่านทั้งหลายทำอย่างนี้ การปฏิบัติของเราจึงจะมีผลก้าวหน้าให้เห็นได้

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2017 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา