ในเรื่องของหลักธรรม ถ้าคุณไปอ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง อ่านครั้งหนึ่งผ่านไป "เออ..ตรงนี้เข้าท่า ตรงนี้ดี" บางคนขีดเส้นเน้นด้วย พอไปอ่านอีกรอบหนึ่ง “อ้าว..ตรงนี้เลยไปได้อย่างไรวะ ?” ลักษณะนี้ ตรงที่เลยไปความจริงเราไม่ได้เลย เราอ่านเหมือนกัน แต่ว่าเราอ่านแล้วกำลังใจเรายังไม่ถึงตรงนั้น จึงมองข้ามไปเฉย ๆ ถ้ากำลังใจถึงตรงนั้นเมื่อไรจะถึงบางอ้อ แล้วก็ “อ้าว..คราวที่แล้วเราอ่านข้ามไปได้อย่างไร ?”
ฉะนั้น..หนังสือธรรมะอ่านบ่อย ๆ ครับ ยิ่งอ่านยิ่งได้ ยิ่งอ่านกำลังใจยิ่งละเอียดขึ้น ยิ่งเข้าใจแตกฉานขึ้น ความเข้าใจนี่เป็นปัจจัตตัง รู้เฉพาะตัว ภาษาคำพูดและหนังสือหยาบเกินไป ที่จะอธิบายหลักธรรมที่แท้จริงได้ ผมอ่านหนังสือจนหนังสือหลวงพ่อวัดท่าซุงเปื่อยไปเป็นเล่ม ๆ เลยครับ ที่เวลาผมยกตัวอย่างแล้วบอกคุณว่าอยู่หนังสือเล่มนั้น หน้านั้น บรรทัดนั้น ที่บอกได้เพราะผมอ่านมาจนนับรอบไม่ถ้วนแล้ว
บางคนก็อยากจะจับผิดผม อุตส่าห์จดเอาไว้แล้วก็ไปเปิดดู ปรากฏว่าอยู่ตรงนั้นจริง ๆ อันนี้ไม่ใช่ความสามารถพิเศษครับ เกิดจากการที่ผมอ่านย้ำแล้วย้ำอีกทุกวัน ผมใช้หนังสือธรรมะเป็นคำภาวนาครับ ผมไม่ได้อ่านเฉย ๆ “ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย..วันนี้จะกล่าวถึงเรื่องของอานาปานุสติกรรมฐาน” คำภาวนาทั้งนั้นเลยครับ เพราะผมจับควบกับลมหายใจเข้าออกไปด้วย แล้วกำลังจะทรงตัวเร็วมาก ลองไปทำดูได้
ผมต้องบังคับตัวเองว่า ต้องอ่านให้จบ ๑ เรื่องให้ได้ในทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นแล้วอ่านไปไม่ถึงหน้า ก็อยากจะวางไปภาวนาท่าเดียว เพราะพอกำลังใจทรงตัวก็ไม่อยากอ่านแล้ว แต่ผมอยากรู้ว่าหลวงพ่อท่านสอนอะไรผมมากกว่าที่ผมรู้ ผมจึงต้องบังคับตัวเองให้อ่านให้จบให้ได้
เพราะฉะนั้น..ผมจะอ่านธรรมะของหลวงพ่อทีละเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเก่าเลย ตัดกังวล ตัดนิวรณ์ พร้อมสัจจะ ทรงพรหมวิหาร ๔ ไล่ไปเรื่อย ไปเปิดดูในหนังสือกรรมฐานสี่สิบได้ครับ หัวข้อตามนี้เป๊ะเลย แต่ละหัวข้ออยู่หน้าไหนบ้าง ? อยู่เรื่องไหนบ้าง ? เรื่องไหนที่ผมชอบใจที่สุดผมจำหน้าได้หมด ไม่ใช่เก่งครับ แต่อ่านมาจนนับรอบไม่ถ้วนแล้ว ผมออกจากวัดท่าซุงมาใหม่ ๆ ผมซื้อเทปหลวงพ่อวัดท่าซุงมา ๑๕๐ ม้วน ถามท่านตู่ดู ทุกม้วนฟังไม่ได้เลย เพราะผมฟังจนยืดหมด ฟังจนนับครั้งไม่ถ้วน ฟังจนกระทั่งยืดก็เอาไปแช่ตู้เย็น พอเสียงดีขึ้นมาหน่อยก็เอามาฟังใหม่ คนรุ่นหลัง ๆ ไปเปิดฟังไม่รู้เรื่องแล้วครับ พังบรรลัยหมดแล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2014 เมื่อ 02:55
|