ถาม : ช่วงหลัง ๆ เวลาที่เกิดอารมณ์กระทบ พอพิจารณาได้แล้วมันวางได้ มันจะเกิดความรู้สึกตามมา ๒ แบบ แบบแรกก็คือ เบื่อที่มันไม่จบไม่สิ้นเสียที กับอีกแบบหนึ่งมันเฉย ๆ
ตอบ : สังเกตอารมณ์นิดหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ให้มันเบื่อได้
ถาม : แล้วเฉยมันเกิดจากอะไร
ตอบ : เฉยมันเกิดจากสองอย่าง อย่างแรกคือ สมาธิแน่นไป อย่างที่สองก็คือพิจารณาไม่ถึง จิตมันไม่ยอมรับจริง ๆ
ถาม : ที่ถูกจะต้องเบื่อหรือคะ
ตอบ : ถ้ายอมรับมันจะเบื่อ แล้วถ้ามันถอนออกจากความเบื่อ มันจะปล่อยวาง คราวนี้เราใช้คำว่าเฉย เราต้องสังเกตอารมณ์ตัวเองว่ามันเฉยแบบไหน มันเฉยแบบรู้เท่าทันแล้วปล่อยวางหรือเปล่า? หรือเฉยในแบบสมาธิกดมันเอาไว้ แล้วอารมณ์มันไม่กำเริบอีก เราก็เลยรู้สึกว่าเฉย ถ้าหากว่าเป็นเฉยแบบรู้เท่าทันแล้วปล่อยวางจึงจะใช้ได้
ถาม: เวลาหนูมีเรื่องกระทบเบา ๆ ก็จะพิจารณาว่าจิตอยู่กับเรา ไอ้ที่เกิดมันเป็นเรื่องธรรมดาไม่เกี่ยวกับเรา กับอีกแบบหนึ่งคือเรื่องมันแรงมาก หนูจะโดดไปเกาะพระที่นิพพาน ให้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่ามันไม่เกี่ยวกับเราจริง ๆ
ตอบ : จะแรงหรือจะเบาเอาให้ได้อย่างหลัง คือ ส่งใจไปนิพพานไว้ก่อน แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งเกาะนิพพานไว้ก่อน เราจะได้เห็นชัด ๆ ว่า นี่มันไม่เป็นเรื่องของเรา ถ้าเปรียบดูแล้วร่างกายมันเหมือนกับบ้าน คนมันมาเตะประตูรั้วบ้าง มาทุบประตูบ้านบ้าง ขว้างฝาผนังบ้างก็เรื่องของมัน เราอยู่ในบ้านเราก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่คราวนี้เราไม่ได้อยู่ในบ้านเสียด้วย เราเผ่นไปรอที่นิพพานแล้วมองมันเสียด้วยซ้ำไป
ถาม : ถ้าทำอยู่แค่นี้ ไม่ได้มากกว่านี้ แต่ทำให้ละเอียดยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ใช้ได้หรือเปล่าคะ
ตอบ : ทำให้มันคล่องตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ ทันทีที่กระทบ แล้วเราไปอยู่นิพพานได้เลยแล้วเราจะปลอดภัย
ถาม : แล้วถ้าพิจารณานั่งนิ่ง ๆ ยังมีความจำเป็นอยู่ไหม
ตอบ : ถ้ามันมีเวลาอยากคิด ให้มันคิดได้ แต่ถ้ามันไม่คิด ส่งใจไปอยู่นิพพานที่เดียวก็พอแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-12-2009 เมื่อ 09:45
|