ดูแบบคำตอบเดียว
  #85  
เก่า 17-07-2018, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนยุคที่หลวงตามหาบัวประท้วงนั้น ไม่ได้ประท้วงเรื่องกฎหมาย แต่เป็นการประท้วงการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช ตอนนั้นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงงานไม่ได้ รัฐบาลทักษิณชินวัตร จึงตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชขึ้นมา ซึ่งทำให้ทางพระธรรมยุตโดยเฉพาะสายวัดป่าเห็นว่าเป็นการขโมยตำแหน่งกัน ซึ่งความจริงในเรื่องของการบริหารคณะสงฆ์ จะหยุดไม่ได้แม้แต่วันเดียว แล้วสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกนั้น พระองค์ท่านพระชนมายุยืนมาก ถึงขนาด ๑๐๐ พรรษา

ลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าช่วงนั้นไม่มีการตั้งผู้รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราชจะเกิดอะไรขึ้น ? เพราะว่ามีการปลอมพระลิขิตกันแล้ว แต่ในเมื่ออยู่ในลักษณะนั้น ทำให้พระทางฝ่ายธรรมยุตเห็นว่า อำนาจไปตกอยู่ในมือของพระมหานิกาย จึงต้องอาศัยมือพระวัดป่ามาช่วยกันประท้วง แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ การขโมยตำแหน่งของหลวงพ่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของอดีตเจ้าคุณธัมมชโย วัดธรรมกาย

วัดธรรมกายสร้างลูกศิษย์ลูกหาเป็นปึกแผ่นแน่นหนาทั่วประเทศไทย ธรรมยุตรู้สึกว่าสถานะของตนคลอนแคลน ถ้าหากว่าอำนาจตกไปสู่ฝ่ายมหานิกายเต็ม ๆ ตามกฎหมาย ก็จะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายตน จึงมีการแก้กฎหมาย เพื่อที่จะเปลี่ยนไปเป็นพระราชอำนาจในการพิจารณาการแต่งตั้ง ก่อนหน้านี้ก็แก้ไขกฎหมายมาทีหนึ่งแล้ว เพื่ออำนวยผลแก่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก ขึ้นดำรงตำแหน่งได้ คือเปลี่ยนจากอาวุโสโดยพรรษา มาเป็นอาวุโสโดยสมณศักดิ์แทนไปทีหนึ่งแล้ว

พอมายุคนี้อาวุโสโดยสมณศักดิ์ ๓ รายเป็นพระมหานิกายทั้งหมด ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้เพราะว่ากฎหมายกำหนดไว้ ก็เลยต้องแก้กฎหมายอีก ให้เปลี่ยนว่าการแต่งตั้งพระสังฆราชจากสมเด็จพระราชาคณะรูปใดรูปหนึ่ง แล้วแต่พระราชวินิจฉัย พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้อำนาจตกอยู่กับฝ่ายธรรมยุต ซึ่งพระมหานิกายของเราก็ไม่ได้ถือสา ถ้าหากว่าท่านทรงคุณความดี พวกเราก็พร้อมที่จะยอมรับนับถือ

แต่ขอให้ญาติโยมรู้ว่า เรื่องนี้มีการตีกินกันมาตลอดของฝ่ายธรรมยุต ตั้งแต่สมัยก่อนโน้นแล้ว ช่วงยุครัชกาลที่ ๕ ที่ ๖ ที่ ๗ ที่ ๘ พระฝ่ายธรรมยุตยึดตำแหน่งพระสังฆราชติดต่อกัน ๗๐ กว่าปี ถึงขนาดแอบมุบมิบแต่งตั้งกัน เมื่อยุคที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสยังทรงกรมเป็นกรมหมื่น อายุกาลพรรษายังไม่พอ ก็ดองการตั้งสมเด็จพระสังฆราชเอาไว้ถึง ๑๑ ปีเต็ม ๆ เพื่อให้ท่านอาวุโสพรรษาพอ ถึงได้เสนอให้ทรงสถาปนาขึ้นไป

หลังจากนั้นพอมาในสมัยรัชกาลที่ ๘ หลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) วัดสุทัศน์เทพวราราม ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ก็มีการแก้กฎหมายเพื่อที่จะไม่ให้ท่านเป็นใหญ่ โดยการยกตำแหน่งพระสังฆราชขึ้นหิ้งไป แล้วก็มีสังฆสภา สังฆมนตรี และคณะวินัยธรมาทำหน้าที่แทน สังฆสภามีหน้าที่ออกกฎออกระเบียบเกี่ยวกับการปกครองสงฆ์ สังฆมนตรีมีอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ทั้งหมด และคณะวินัยธรมีหน้าที่ตัดสินอธิกรณ์ คือเรื่องที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2018 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา