นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสนัน..ติ
ณ บัดนี้ อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนา ในโอวาทปาติโมกข์คาถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาท่านทานิสราธนบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้
ญาติโยมทั้งหลาย เมื่อเวลา ๒,๕๙๘ ปีที่ล่วงมานั้น ได้เกิดเหตุอัศจรรย์อย่างหนึ่งขึ้นในพระพุทธศาสนา คือ วันนั้นตรงกับ
วันเพ็ญเดือน ๓ หรือที่เรียกว่า
พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
ในวันนั้นหลังจากที่ออกพรรษาแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ได้เสด็จไปสู่เวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ปรากฏว่าได้มีพระสงฆ์จากทิศต่าง ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาของเรา ได้ทำการบวชให้นั้น พากันมาเฝ้าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นจำนวนถึง ๑,๒๕๐ รูปด้วยกัน อย่าลืมว่าในสมัยนั้น ยังมีพระภิกษุเป็นจำนวนน้อยอยู่ ๑,๒๕๐ รูปนั้น คือจำนวนพระภิกษุทั้งหมดที่มีอยู่ในช่วงนั้น
ถ้าหากเราสงสัยว่า ทำไมถึงมี ๑,๒๕๐ รูป เราแค่นึกดูว่าบริวารของท่านชฏิลทั้ง ๓ องค์ ก็คือ
ท่านอุรุเวลกัสสปเถระ ท่านนทีกัสสปะเถระ และ
ท่านคยากัสสปเถระ ทั้ง ๓ นั้น ก็มีบริวารรวมกันถึง ๑,๐๐๐ รูปแล้ว ส่วนที่เหลืออีก ๒๕๐ รูป ก็คือ ส่วนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงเมตตาประทานการอุปสมบทให้ในช่วงแรก ก่อนที่จะเสด็จไปโปรดชฏิลทั้ง ๓ นั่นเอง
ในวาระอันสำคัญนั้น ภาษาบาลีเรียกว่า
จาตุรงคสันนิบาต คือการประชุมอันประกอบด้วยองค์สำคัญ ๔ ประการคือ
๑. ภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ รูปนั้น มาประชุมรวมกันโดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน ต่างฝ่ายก็อยากจะมาเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเดินทางมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
๒. พระทั้ง ๑,๒๕๐ รูปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ผู้ปราศจากกิเลสทั้งสิ้น ถือว่าเป็นการประชุมสังฆกรรมพระผู้บริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีการประชุมสังฆกรรมครั้งใดเหนือไปกว่านั้นอีกแล้ว
๓. พระภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ รูป ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทานการบวชให้ด้วยพระองค์เอง ซึ่งเรียกว่า
บวชโดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือการบวชโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
เอหิภิกขุ ซึ่งมีความหมายว่า
ขอเธอจงมาเป็นภิกษุเถิด ดังนี้เป็นต้น
๔. เป็นวันที่ดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ คือตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓