ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 21-02-2011, 23:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,677 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์วันมาฆบูชา ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔




นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสนัน..ติ

ณ บัดนี้ อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนา ในโอวาทปาติโมกข์คาถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาท่านทานิสราธนบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้

ญาติโยมทั้งหลาย เมื่อเวลา ๒,๕๙๘ ปีที่ล่วงมานั้น ได้เกิดเหตุอัศจรรย์อย่างหนึ่งขึ้นในพระพุทธศาสนา คือ วันนั้นตรงกับวันเพ็ญเดือน ๓ หรือที่เรียกว่า พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์

ในวันนั้นหลังจากที่ออกพรรษาแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ได้เสด็จไปสู่เวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ปรากฏว่าได้มีพระสงฆ์จากทิศต่าง ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาของเรา ได้ทำการบวชให้นั้น พากันมาเฝ้าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นจำนวนถึง ๑,๒๕๐ รูปด้วยกัน อย่าลืมว่าในสมัยนั้น ยังมีพระภิกษุเป็นจำนวนน้อยอยู่ ๑,๒๕๐ รูปนั้น คือจำนวนพระภิกษุทั้งหมดที่มีอยู่ในช่วงนั้น

ถ้าหากเราสงสัยว่า ทำไมถึงมี ๑,๒๕๐ รูป เราแค่นึกดูว่าบริวารของท่านชฏิลทั้ง ๓ องค์ ก็คือท่านอุรุเวลกัสสปเถระ ท่านนทีกัสสปะเถระ และท่านคยากัสสปเถระ ทั้ง ๓ นั้น ก็มีบริวารรวมกันถึง ๑,๐๐๐ รูปแล้ว ส่วนที่เหลืออีก ๒๕๐ รูป ก็คือ ส่วนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงเมตตาประทานการอุปสมบทให้ในช่วงแรก ก่อนที่จะเสด็จไปโปรดชฏิลทั้ง ๓ นั่นเอง

ในวาระอันสำคัญนั้น ภาษาบาลีเรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต คือการประชุมอันประกอบด้วยองค์สำคัญ ๔ ประการคือ

๑. ภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ รูปนั้น มาประชุมรวมกันโดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน ต่างฝ่ายก็อยากจะมาเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเดินทางมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

๒. พระทั้ง ๑,๒๕๐ รูปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ผู้ปราศจากกิเลสทั้งสิ้น ถือว่าเป็นการประชุมสังฆกรรมพระผู้บริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีการประชุมสังฆกรรมครั้งใดเหนือไปกว่านั้นอีกแล้ว

๓. พระภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ รูป ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทานการบวชให้ด้วยพระองค์เอง ซึ่งเรียกว่า บวชโดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือการบวชโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า เอหิภิกขุ ซึ่งมีความหมายว่า ขอเธอจงมาเป็นภิกษุเถิด ดังนี้เป็นต้น

๔. เป็นวันที่ดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ คือตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg มาฆะ ๕๔.jpg (86.8 KB, 399 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-02-2011 เมื่อ 09:49
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา