พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่มีพระ มีโยมหลายท่านมาช่วยกันปูอาสนะ ปรากฏว่าได้แต่ปู ต้องไปแก้ไขใหม่ เพราะขาดการสังเกตอย่างแรง ขนาดบอกให้ดูข้างหน้าก็ได้แต่ดู ประเภทมองป่าก็เห็นแต่ป่า ไม่เห็นต้นไม้ ถ้าเราขาดการสังเกตแล้ว กิเลสในใจที่หลอกล่อเราอยู่ตลอดเวลา เราจะไปเห็นได้อย่างไร ?
การปฏิบัติธรรม ยิ่งปฏิบัติไป สภาพ กาย วาจา ใจ ต้องละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างที่เมื่อวานตอนค่ำเตือนว่า เราไปตลาดอย่าไปเดินเกะกะจนกระทั่งรถราไปไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่พวกเราทำ จะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ตาม ถ้าเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นก็จะเกิดกรรมแก่ตัวเองด้วย สร้างกรรมเมื่อไรก็แปลว่าเครื่องถ่วงบังเกิดขึ้น โอกาสที่เราจะเข้าถึงมรรคผลนิพพานก็ช้าลง เพราะเครื่องถ่วงมีมาก เราจึงต้องระมัดระวัง และต้องรู้จักสังเกตกำลังใจตัวเองด้วย ว่ากำลังใจของเราตอนนี้เป็นอย่างไร"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2015 เมื่อ 19:19
|