ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 12-02-2015, 18:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,982 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พยายามพิจารณามองเห็นให้ชัดเจน สรุปลงให้ได้ว่า ธรรมดาของร่างกายเป็นเช่นนี้ ตัวเราก็เป็นเช่นนี้ เกิดมาต้องทุกข์ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนหลับตาลง นอนลงไปแล้วก็ยังทุกข์ เพียงแต่ว่าเป็นความทุกข์ในขณะที่เราขาดสติ นอนอิริยาบถเดียวกันได้ไม่นาน อย่างเก่ง ๑๕ นาที ๒๐ นาที ก็ต้องขยับร่างกาย เพื่อให้หายปวดหายเมื่อย แต่เราเองอาจจะขาดสติ ไม่รับรู้อาการของร่างกายนั้น ๆ เท่ากับว่าเราดำเนินชีวิตอยู่บนกองทุกข์ โดนความทุกข์รุมเร้าเผาลนอยู่ตลอดเวลา

ถ้าพิจารณาบ่อย ๆ จนสภาพจิตยอมรับ จะเห็นความธรรมดาว่า ตัวเราก็ดี ตัวของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี มีแต่ความทุกข์ทั้งสิ้น แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่มีชีวิต จะเป็นตึกรามบ้านช่องเรือนโรงใด ๆ ก็ตาม ก็มีแต่ความทุกข์ คือทุกข์โดยสภาพที่ก้าวไปหาความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ถ้าสภาพจิตของเราเห็นชัดเจน กำลังสมาธิเพียงพอ ก็จะสามารถก้าวล่วงพ้นไปได้ เพราะปัญญาของเราเกิด เห็นความเป็นปกติธรรมดา

เกิดมามีร่างกายก็ต้องทุกข์อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดขึ้นมามีความทุกข์เช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนน่ากลัวเช่นนี้ เราไม่ต้องการอีก เทวโลก พรหมโลกที่มีความสุขเพียงชั่วคราว ถึงเวลาเผลอเมื่อไรก็ต้องลงมาทุกข์ใหม่ เราก็ไม่ต้องการอีกแล้ว จุดหมายของเรามีที่เดียวคือพระนิพพานเท่านั้น

เมื่อพิจารณามาถึงตรงจุดนี้แล้ว ก็ให้ส่งใจไปเกาะพระนิพพาน ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นคือพระพุทธนิมิตของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ตั้งใจว่าถ้าเราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ จนถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานแห่งเดียว

กำหนดภาพพระนั้นแล้วภาวนาไปเรื่อย เมื่อเต็มกำลังของเรา ไม่สามารถภาวนาต่อได้แล้ว ก็ถอยออกมาพิจารณาใหม่ ให้ทำสลับไปสลับมาอย่างนี้ทุกวัน ทุกเวลา เท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งสภาพจิตเกิดการยอมรับ เห็นจริงว่าธรรมดาของร่างกายนี้เป็นทุกข์ ไม่มีความปรารถนาในการเกิดอีกแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราก็มีโอกาสที่จะก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ปรารถนา

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา