ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 05-12-2019, 21:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,480 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่สามารถจะก้าวพ้นความเบื่อหน่าย ขณะเดียวกันก็ไม่อาจจะปล่อยวาง โดยเฉพาะวางการปรุงแต่งของใจ ตาเห็นรูป..ไม่คิด หูได้ยินเสียง..ไม่คิด จมูกได้กลิ่น..ไม่คิด ลิ้นได้รส..ไม่คิด กายสัมผัส..ไม่คิด ระมัดระวังรักษาใจไม่ให้ไหลไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง ก็คือสักแต่ว่าได้เห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่าได้รส สักแต่ว่าสัมผัส ไม่คิดต่อให้เกิดโทษกับตนเอง ถ้าลักษณะอย่างนั้น รัก โลภ โกรธ หลง ก็เกิดไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ไปเพิ่มเติมเชื้อให้เกิด

ถ้าสามารถละเว้นได้ในระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอ เราก็จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ปรารถนา ดังนั้น...ท่านที่เกิดนิพพิทาญาณขึ้นมา ต้องใช้ปัญญาประกอบให้เห็นว่า การที่เราปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ถ้าสามารถไปได้ในชาตินี้ เทียบกับการเกิดเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบแล้ว เป็นระยะเวลาสั้น ๆ แค่นิดเดียว ดังนั้น...อะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็ “ช่างมัน..ช่างเถอะ” พยายามละ พยายามวางลง แล้วท่านก็จะก้าวพ้นไปสู่สังขารุเปกขาญาณตามที่ตนเองปรารถนา

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย น้องผักชี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา