ดูแบบคำตอบเดียว
  #57  
เก่า 13-09-2013, 11:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,219 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จิตเป็นโมหะ คือลักษณะอาการเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ในบาลีเขาใช้คำว่า เซื่องซึม น่าจะอยู่ในลักษณะของคนใจลอย ใจลอยค่อนข้างจะขาดสติ ในเมื่อขาดสติ หาทางไปไม่ได้ ถือว่าจัดอยู่ในโมหะ คือความหลง ไปไม่เป็น ไปไม่ถูก

ถาม : อย่างเช่นเชื่อคำพูดอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นจริง ?
ตอบ : อันนั้นจะเรียกว่าหลงไม่ได้ ต้องเรียกว่าปัญญาไม่ถึง ถือมงคลตื่นข่าว โมหะจริง ๆ ควรจะอยู่ในลักษณะกำลังใจที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ครองอยู่มากกว่า แต่เท่าที่ได้ฟังเขาอธิบายมาคือ สภาพจิตเซื่องซึม งุนงง เลยสรุปลงไปว่าขาดสติ

ถาม : มีสติอยู่แล้วไม่มีปัญญา เป็นไปได้หรือครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วสติกับปัญญาเป็นของคู่กัน จะมากจะน้อยต้องมีอยู่ เพียงแต่ว่าถ้าสติเกินปัญญาก็จะจด ๆ จ้อง ๆ ไม่กล้าทำอะไร ถ้าปัญญาเกินสติ ก็จะโฉ่งฉ่างบุ่มบ่าม แล้วก็พลาดได้ง่าย ในอินทรีย์ ๕ พละ ๕ จึงต้องไปพร้อม ๆ กัน คือต้องเท่า ๆ กัน อย่างไหนมากกว่าหรือน้อยกว่า จะเกิดอาการอย่างที่ว่ามา

ที่บอกว่าถ้ามีสติแต่ไม่มีปัญญาเลย เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก็ใช่..เพียงแต่ว่ามีมากมีน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2013 เมื่อ 13:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา